รีวิว twilight 2008
ชื่อเรื่อง : “twilight” (แวมไพร์ ทไวไลท์)
แนว : โรแมนติกแฟนตาซี
นักแสดง : Kristen Stewart, Robert Pattinson, Billy Burke, Peter Facinelli
บทภาพยนตร์ : Melissa Rosenberg
ผู้กำกับ : Catherine Hardwicke
ค่าย : Summit Entertainment
วันฉาย : 17 พฤศจิกายน 2008
เวลา : 02 ชั่วโมง 01 นาที
IMDb : 5.2 (จากทั้งหมด 421,299 โหวต)
ก่อนที่เราจะมารีวิวหนัง คุณจะต้องมาทำความเข้าใจในภาพยนตร์เรื่องนี้กันก่อนนะคะ หนังเรื่องนี้เป็นหนังแนวแฟนซี โรแมนติก ง่าย ๆ มันก็คือหนังรักนั่นเอง แต่มีตรีมความเป็นเทพนิยายเข้ามา นั่นคือเรื่องของแวมไพร์ โดยเนื้อหาจะมีประมาณว่า เบลล่า สวอน นำแสดงโดยคริสแตน สจ๊วต หญิงสาวที่ดูใสซื่อ พึ่งย้ายมาจากเมืองอื่น
ที่ดูเหมือนจะตกหลุม รักชายที่มีชื่อว่า เอ็ดเวิร์ด คัลเลน นำแสดงโดย โรเบิร์ต แพตตินสัน ดูเหมือนจะเป็นเรื่องปกติที่หญิงชายจะตกหลุมรักในช่วงอายุวัยรุ่น จนเบลล่าได้พบว่าชายที่เธอแอบปลื้มมีอะไรที่ประหลาดเกิดขึ้น ดูหนัง
รีวิว twilight 2008
วันหนึ่งเธอก็ได้พบว่าจริง ๆ แล้วเอ็ดเวิร์ดเป็นแวมไพร์ ซึ่งเมื่อรู้อย่างนั้นแล้ว ตอนแรกเบลล่าก็รู้สึกแปลกใจ และไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องจริง แต่เมื่อเวลาผ่านไป เบลล่าก็ได้เห็นเอ็ดเวิร์ดช่วยชีวิตของเธอจากสิ่งอันตราย โดยที่มีพลังมหาศาล จึงทำให้เธอเชื่อ เมื่อเรื่องราวดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ เขาและเธอก็ได้มีความรู้สึกดี ๆ ให้กัน จนเอ็ดเวิร์ด
พาไปทำความรู้จักกับครอบครัวของเขา และแน่นอนว่าเบลล่าเป็นมนุษย์คนเดียวในบ้านผีดูดเลือดนั่นเอง เมื่อกลิ่นเลือดของเธอมันช่างหอมหวานจนไม่อาจจะทำให้เหล่าคนในครอบครัวห้ามใจได้ แต่ก็ไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้น เพราะห้ามใจไว้ได้ทัน เว็บหนัง
แต่เมื่อเอ็ดเวิร์ดเลือกรักผู้หญิงคนนี้แล้ว ทำให้ครอบครัวของเขาต้องปรับตัวทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้อาการหิวเลือดมนุษย์กำเริบขึ้นอีก หลังจากนั้นเรื่องราวจะเป็นอย่างไร จะเกิดอะไรขึ้นกับเบลล่าและเอ็ดเวิร์ดอีกไหม ไปติดตามชมกันได้ที่ Vampire Twilight ภาค 1 เลยค่ะ ความรู้สึกส่วนตัวเมื่อดูหนังเรื่องนี้จบ คือเป็นหนังที่ดี และสนุกมาก
เนื่องจากพล็อตของเรื่องค่อนข้างน่าสนใจมาก ๆ เพราะเป็นเรื่องราวของมนุษย์ และแวมไพร์ที่ตกหลุมรักกัน ซึ่งทำให้เรารู้สึกอยากเป็นแวมไพร์ขึ้นมาทันที อาจจะดูเพ้อฝันมาก ๆ แต่เพราะเนื้อเรื่องของเขาทำให้เราอินไปกับฉากแต่ละฉากอย่างถอนตัวไม่ขึ้น twilight สปอย
แถมเรื่องของการแสดงอารมณ์ในตัวละคร ทำได้เยี่ยมมาก ๆ เราไม่มีตรงไหนจะติเลย เอาง่าย ๆ ว่าเป็นหนังที่เก่าแล้ว หลายคนอาจจะเคยดูกันจนครบ 4 ภาคแล้วละ แต่สำหรับใครที่ไม่เคยดูเลย เราแนะนำหนังเรื่องนี้เลยค่ะ เป็นหนังรักที่มีเรื่องของเทพนิยายเข้ามาทำให้หนังสนุก ดูเพลิดเพลินมากขึ้น ง่าย ๆ คือดูภาคแรกจบ ถ้าไม่ต่อภาคสองคงจะนอนไม่หลับแน่ ๆ
การดำเนินเรื่อง
เรื่องราวของ “เบลล่า สวอน” (รับบทโดย Kristen Stewart) เด็กสาวในครอบครัวที่พ่อแม่หย่าร้างกัน และแยกกันอยู่ ซึ่งเธอได้ใช้ชีวิตอยู่กับแม่ของเธอมาโดยตลอดตั้งแต่เด็ก แต่ในวันหนึ่งแม่ของเธอก็ได้แต่งงานใหม่ และสามีใหม่ของแม่เธอเป็นนักเบสบอลที่ต้องเดินทางไปแข่งขันบ่อยๆ เธอจึงเห็นว่าถ้าเธอยังอยู่กับแม่นั้น ดูหนังฟรี
แม่เธอจะต้องคอยอยู่ดูแลเธอที่บ้านแทนที่จะได้ออกเดินทางไปพร้อมกับสามีใหม่ เบลล่าจึงอยากเปิดโอกาสให้แม่ของเธอมีความสุขกับชีวิตคู่ครั้งใหม่นี้ให้เต็มที่ เธอจึงตัดสินใจย้ายไปอยู่กับพ่อของเธอที่เมืองฟอร์ก สหรัฐอเมริกา เมืองที่มีฝนตก หนาวเย็นตลอดทั้งปีแทน
เมื่อเบลล่าได้เข้าไปเรียนที่โรงเรียนแห่งใหม่ เธอก็ได้พบเข้ากับ “เอ็ดเวิร์ด คัลเลน” (รับบทโดย Robert Pattinson) ผู้ชายที่สุดแสนจะเพอร์เฟ็ค ไม่ว่าจะเป็นรูปร่าง หน้าตา ความแข็งแรง และความฉลาดที่เรียกได้ว่าครบเครื่องเอามากๆ แต่ภายใต้ความเพอร์เฟ็คนี้กลับมีความลับบางอย่างซ่อนอยู่ twilight สปอยหนัง
พล็อตเรื่อง
สำหรับหนังเรื่องนี้เรียกได้ว่าเป็นยุคบุกเบิกของหนังที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับแวมไพร์ในสมัยนั้นได้เลย เพราะด้วยความที่มันเป็นหนังรักที่มีเรื่องราวของแวมไพร์ และมีฉากต่อสู้เพื่อปกป้องคนที่รักเราให้เราได้ดูได้อย่างไม่น่าเบื่อเลย ซึ่งสำหรับใครที่ไม่ชอบหนังรักที่เป็นหนังรักแบบความรักหวานแหวว ดูหนังใหม่ แอดว่าหนังเรื่องนี้ก็ตอบโจทย์อยู่นะ อีกทั้งหนังเรื่องนี้ยัง
เป็นหนังที่ใช้การเดินเรื่องได้แบบเรียลมากๆ เพราะตัวหนังนั้นมีการใส่เพลงประกอบมาน้อยมาก ให้อารมณ์เหมือนเรากำลังดูหนังญี่ปุ่นอยู่เลย เอาเป็นว่าสำหรับแอดนะ แอดว่าหนังเรื่องนี้น่ารักสมคำล่ำลือเลยจริง ว่าจะตามเก็บให้ครบทุกภาคเลยแหละ twilight เนื้อเรื่อง
หมวดหมู่ : Drama Fantasy Romantic
สัญชาติ : American
กำกับโดย : Catherine Hardwicke
ความยาว : 2 ชั่วโมง 2 นาที
นักแสดงนำ : Kristen Stewart, Robert Pattinson, Billy Burke
รีวิว twilight 2008 บทสรุป
หนังเล่าถึง เบลล่า สวอน (Kristen Stewart) หญิงสาววัยรุ่นที่ทำตัวแปลกแยกจากคนอื่น ไม่ค่อยสนใจพวกของสวย ๆ งาม ๆ หรือวัตถุนิยมเหมือนคนสมัยนี้ แต่เพราะแม่ของเธอแต่งงานใหม่ เธอมาอาศัยอยู่กับพ่อที่ฟอร์คส เมืองเล็ก ๆ ที่ไม่ค่อยจะมีแดดแถมฝนตกตลอดปี ในวันแรกที่เธอได้ย้ายเข้ามาเรียนที่ไฮสคูลของเมืองนี้ เธอก็ได้พบกับเอ็ดเวิร์ด คัลเลน (Robert Pattinson) นักเรียนหนุ่มที่แสนเพอเฟคต์ที่ตอนแรกจ้องเธออย่างไม่ลดละสายตา แต่เมื่อถึงเวลาเรียนวิชาเดียวกันและนั่งใกล้กัน เขากลับทำเหมือนรังเกียจเบลล่าและก็หายตัวไป 1 อาทิตย์
หลังจากนั้น เบลล่าก็ต้องตกตะลึง เพราะจู่ ๆ เอ็ดเวิร์ดก็โผล่มาช่วยชีวิตเบลล่าไว้ ทำให้เบลล่าต้องนั่งคุยกับเอ็ดเวิร์ดแบบจริงจัง เอ็ดเวิร์ดจึงยอมรับว่าเขามีความสามารถในการอ่านใจคน แต่เขากลับอ่านใจเบลล่าไม่ได้และการสานสัมพันธ์ความรักของทั้งสองคนก็เริ่มขึ้น
หนังดำเนินเรื่องเรื่อย ๆ ไม่มีอะไรหวือหวา แรก ๆ ถือว่าน่าเบื่อด้วยซ้ำเพราะหนังเป็นภาพยนตร์แนวโรแมนติค การเดินเรื่องมันเลยจะค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป เหมือนจะให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตของเบลล่าและการทำกิจกรรมกับเพื่อนที่โรงเรียนมัธยมปลาย แต่หนังก็ไม่ใช่ว่าเป็นแนวดราม่าเลิฟไปซะทีเดียว ก็ยังมีตัวร้ายเพื่อสร้างสีสันให้กับเนื้อเรื่องเช่นกัน ซึ่งจะโผล่มากลางเรื่องครับ twilight บทสรุป
โดยรวมหนัง
ซึ่งต้องขอบอกก่อนนะครับว่าในเรื่องนั้น การที่มีมนุษย์อยู่ในกลุ่มของแวมไพร์ถือเป็นเรื่องที่ต้องห้ามครับ ซึ่งตัวร้ายในเรื่องจะมีสามคน เป็นคู่รัก 1 คู่ และเป็นหัวหน้าอีก 1 คน หนังทำให้ตัวร้ายกับกลุ่มพระเอกมาเจอกันในฉากที่เล่นเบสบอล ตัวร้ายที่เป็นฝ่ายชายซึ่งได้กลิ่นความเป็นมนุษย์ของนางเอก จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เขากระหายและพยายามล่านางเอก แต่สิ่งที่แปลกใจคือทีมพระเอกมีกัน 5 คน แต่มาหนีตัวร้ายแค่ 2 คน ที่เป็นนักล่า ในขณะที่ก็ไม่ได้เก่งมาก แต่กลับต้องหนีกันใหญ่โต
คะแนนเนื้อเรื่อง 7/10 ในภาคนี้หนังมีความตื่นเต้นน้อยหน่อย ถึงแม้ว่าจะมีตัวร้ายที่มาตามล่าเบลล่าให้หนังน่าตื่นเต้นก็ตาม แต่ก็มีหลายอย่างที่ไม่สมเหตุสมผลเท่าใดนัก แต่ที่ต้องฟินจิกหมอนก็คงเป็นที่ความหล่อของเอ็ดเวิร์ดนั่นแหละครับ ถือว่าเป็นหนังแวมไพร์โรแมนติคที่ดัง และมีสาว ๆ เป็นแฟนคลับเยอะมาก twilight สนุกไหม
สุดท้ายแล้วเราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า Twilight คืออีกผลงานแฟนตาซีน้ำเน่าที่อาจทำออกมาเอาใจกลุ่มวัยรุ่นวัยใส ที่ดูจะถูกอกถูกใจกับเรื่องราวอะไรแบบนี้เลยทำให้มันกลายเป็นปรากฏการณ์ที่โด่งดังมากๆ อีกเรื่องและโกยรายได้เข้าสตูดิโออย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยในทุกๆ ภาคที่ต่อออกมา แต่กับในแง่คนดูหนังที่คาดหวังเรื่องความบันเทิงมากกว่า
แค่เรื่องรักๆ ใคร่ๆ แล้วก็เรียกได้ว่าอาจจะต่ำกว่าความคาดหวังไปสักหน่อย แต่ความที่ทีมดาราก็แคสออกมาได้หล่อสวย ทั้งครอบครัวตัวเอกก็ดูมีเสน่ห์กันหลายคน ประกอบกับ CG ของหนังที่ไม่ขัดตานัก ทำให้เราก็ยังพอสามารถเสพมันได้เพลินๆ ฆ่าเวลาได้เป็นอย่างดี ในขณะที่แฟนๆ นิยายหรือหนังแนวนี้น่าจะถูกใจกันอย่างเป็นที่สุด
ติดตามรีวิวหนังเรื่องอื่นๆของเราได้ที่ รีวิวหนังใหม่ชัด