รีวิว she dies tomorrow

รีวิว she dies tomorrow 

รีวิว she dies tomorrow

“หนังเรื่องนี้อาจทำให้คุณปลงชีวิตหรือจิตตกกว่าเดิม” คือคำเตือนบนโปสเตอร์หน้ง She Dies Tomorrow พร้อมกำกับชื่อไทยกันงงว่า แพร่พันธุ์วันตาย ซึ่งสารภาพตามตรงว่าเห็นครั้งแรกยังไงก็ไม่ได้คำตอบอยู่ดีว่าหนังจะพูดถึงอะไรจะมาแนวไหนจะมีไวรัสระบาดแล้วคนตายไหมหรือเราจะได้จมจ่อมกับความทุกข์ตัวละครจนจิตตกตามชะตากรรมจนได้เห็นตัวอย่างหนังด้านบนซึ่งก็….ไม่ได้ให้คำตอบข้างต้นอยู่ดีเลยตัดสินใจตีตั๋วเข้าโรงไปตายเอาดาบหน้าแทน

อย่าดูหนังเรื่องนี้ถ้าหากคุณเป็นคนจิตตกง่าย!

เอมี่หญิงสาวที่เกิดภาวะจิตหลอน และเชื่อว่าตัวเองกำลังจะตายในวันรุ่งขึ้น เมื่อเธอเล่าเรื่องนี้ให้บรรดาคนรอบข้างฟัง ความกลัวได้แพร่พันธุ์ออกไปไม่ต่างจากเชื้อโรคร้าย ส่งผลให้พวกเขาเกิดอุปาทานหมู่ และเชื่อว่าตัวเองกำลังจะตายในวันรุ่งขึ้นด้วยเช่นกัน พวกเขากำลังจะถึงที่ตายจริงหรือไม่ หรือนี่เป็นเพียงฝันร้ายที่พวกเขาสร้างขึ้นมาเอง ร่วมกันหาบทสรุปใน She Dies Tomorrow   หนังแนะนำใหม่

โดยหนังจะให้เราตามติดชีวิตตัวละครที่ชื่อเอมี (เคต ลิน เชล) ที่กำลังจมจ่อมกับความคิดที่ว่าตัวเองกำลังจะตายในวันพรุ่งนี้และคนเดียวที่เธอโทรศัพท์เพื่อขอให้มาเจอเป็นคร้้งสุดท้ายก็คือเจน (เจน อดัมส์) เพื่อนสาวนักพฤกษศาสตร์ แต่หลังจากได้คุยกับเอมี ตัวเจนก็เหมือนคิดแต่เรื่องการตายในวันรุ่งขึ้นและยังเอาความคิดนี้ไปแพร่ให้กับเจสัน

(คริส แมสซินา) น้องชายของเธอพร้อมด้วยซูซาน (เคธี อเซลตัน) น้องสะใภ้รวมถึง ทิลลี (เจนนิเฟอร์ คิม) กับ ไบรอัน (ทุนเด อเดบิมเป) คู่รักที่มาร่วมงาน และจากภาพทรงจำที่ย้อนกลับของเอมีและเรื่องราวที่แตกกระจายของแต่ละคนบางทีความตายก็แพร่ระบาดได้ไม่ต่างจากไวรัสเลยทีเดียว

She Dies Tomorrow นำเสนอประเด็นหลักคือเรื่องของอาการอุปาทานหมู่ ซึ่งนักวิจารณ์ที่ต่างประเทศนิยามว่าเป็น “ideological contagion” (การแพร่กระจายในเชิงความคิด / โรคระบาดทางความคิด) หากพินิจดูแล้ว She Dies Tomorrow ก็มีองค์ประกอบคล้ายหนังโรคระบาดทั่วไป หากแต่เชื้อที่ระบาดในหนัง กลับเป็นแนวคิด ความคิด เป็นสิ่งที่มองไม่เห็น เป็นนามธรรม นั้นคือความกลัวตายที่แพร่กระจายออกไปในวงกว้าง ติดต่อจากคนสู่คน

She Dies Tomorrow เป็นหนังที่ถูกพูดถึงมากว่าเป็นภาพสะท้อนของภาวะฟุ้งซ่านจิตตกของคนปี 2020 (ทั้งที่หนังสร้างขึ้นในปี 2019) ในปีที่คนทั้งโลกประสบกับหายนะทั่วทุกมุมโลก เราเสพข่าวต่าง ๆ ผ่านสื่อ แล้วจมปลักกับความกลัวว่าความตายอาจอยู่ใกล้แค่เอื้อม ทั้งภัยธรรมชาติ อาชญากรรมในที่สาธารณะ โรคระบาด ความรุนแรงทางการเมือง ด้วยความที่มนุษย์เป็นสัตว์สังคม เราจึงเกิดการแลกเปลี่ยนทางความคิด อุดมคติ จินตนาการ ซึ่งยิ่งช่วยกระพือความกลัวของคนเราไปในวงกว้าง นี่จึงยิ่งทำให้ She Dies Tomorrow คือหนังจิตวิทยาตลกร้ายที่เป็นหมุดหมายสำคัญของปี 2020 ตามคอนเซ็ปที่ว่าความตายเป็นเรื่องใกล้ตัว แต่ไม่มีอะไรน่ากลัวเท่าความคิดเรา   ดูหนัง

รีวิว she dies tomorrow

รีวิว she dies tomorrow  เอาล่ะที่เล่าไปหลายคนอาจคิดว่าสปอยล์ตัวหนังนะครับแต่ขอโทษที..ถ้าไม่เล่าให้ละเอียดขนาดนี้บางทีอาจเล่าได้แค่ว่าเอมีเอาเรื่องตัวเองจะตายไปแพร่ให้คนอื่นแล้วคนอื่นก็อยากตายตาม อันนี้จะดูกำกวมเสียเปล่าดังนั้นสิ่งที่หนังเรื่องนี้ตั้งใจจะเล่าไม่ใช่เรื่องราวการเอาชนะความคิดเรื่องการตาย (ที่ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่มีผลอะไรมาเป็นรูปธรรมเท่าไหร่) แต่เป็นอารมณ์ความรู้สึกที่หนังตั้งใจจะบิลต์เราให้สะพรึงและกดดันตามตัวละครมากกว่า  เว็บหนัง

โดยข้อมูลที่ควรทราบคือบทภาพยนตร์ของผู้กำกับหนัง เอมี่ ซีเมตซ์ ไม่ได้เล่าเรื่องราวเป็นเส้นตรงและไม่มีการเฉลยที่มาที่ไปอะไรชัดเจน แต่สิ่งที่วนเวียนเป็นเหมือนมวลของเรื่องคือความคิดเรื่องการตายซึ่งแม้หนังจะไม่เฉลยโดยตรงแต่มันก็พอมองออกว่าการตายที่ว่าคงเป็นการอัตวินิบาตกรรมหรือการฆ่าตัวตายมากกว่าจะเป็นการตายธรรมชาติแน่ ๆ ซึ่งมันถูกทำให้เป็นเหมือนโรคระบาดที่แพร่ต่อกันได้ผ่านคำพูดง่าย ๆ  she dies tomorrow สปอย

การดำเนินเรื่อง

ซึ่งหากเดาความคิดผู้กำกับไม่ผิดเหมือนซีเมตซ์จะพยายามสะท้อนภาวะซึมเศร้าที่เหมือนโรคระบาดในปัจจุบันจากทั้งครอบครัวและสังคม แต่แทนที่เธอจะทำสเกลให้มันใหญ่โตระดับโลกเธอก็เลือกให้มันแพร่กระจายในวงสังคมหนึ่งเท่านั้น ซึ่งภาวะหมกมุ่นกับความตายดังกล่าวก็ดันเป็นเรื่องที่เธอไม่พยายามอธิบายหรือให้ปัจจัยแวดล้อมเพิ่มเติมเสียด้วยโดยคนดูจะเห็นเพียงว่าถ้าใครมาพูดพรุ่งนี้ฉันจะตายคนได้ยินก็คือจะคิดเหมือนกันแค่นั้นเอง  ดูหนังฟรี

และยิ่งคนดูต้องตามติดตัวละคร เอมี ในช่วงแรกอย่างหนักหน่วงหนังก็มีทำให้คนดูเกิดคำถามในใจมากกว่าจะคลายปมอธิบายว่าอะไรทำให้เธอเกิดทุกข์บ้างเพราะทั้งการได้ย้ายไปบ้านหลังใหม่ เพิ่งมีแฟนหนุ่มสุดเพอร์เฟกต์ยิ่งไม่ช่วยให้คนดูรู้จักอะไรเธอเลยและยิ่งพฤติกรรมประหลาด ๆ ทั้งการหาโกศไว้ใส่อัฐิหรือร้านทำเสื้อหนัง (เพราะเธออยากให้ผิวหนังของเธอเมื่อตายไปได้ใช้ประโยชน์) ก็ยิ่งทำให้เราไม่อาจเข้าใจเธอได้เลยอะไรทำให้เธออยากตายมากกว่าแค่เรื่องได้รับเชื้อซึ่งหนังจะเฉลยในช่วงท้ายหรือไม่ she dies tomorrow เนื้อเรื่อง

รีวิว she dies tomorrow 

พล็อตเรื่อง

และแม้หนังเหมือนจะพยายามอธิบายความรู้สึกของมนุษย์ในมุมอื่นอยู่บ้างเช่นความอึดอัดของซูซานที่มีต่อเจนในคืนงานวันเกิดที่เหมือนจะท้าวความเรื่องการไม่เป็นที่ต้องการของญาติและยังมีเรื่องรักร้าวที่ไบรอันกับทิลลีแอบกินแหนงแคลงใจกันมาจนได้ระเบิดเมื่อได้รับการแพร่ความคิดเรื่องการตายวันพรุ่งนี้มาแล้ว

ซึ่งตรงนี้บอกตามตรงว่าถ้าหนังให้น้ำหนักกับการอธิบายที่มาของความทุกข์ของเอมีตัวละครหลักด้วยหนังคงพาคนดูดำดิ่งและอินกับตัวละครได้มากกว่านี้แน่ ๆ แต่พอมันไปอธิบายตัวละครแวดล้อมเสียหมดและปล่อยคนดูงงเต็กกับความคิดของเอมีหนังเลยผลักคนดูออกไปเสียมากกว่า  ดูหนังใหม่

และโดยที่ยังไม่ต้องไปพูดถึงว่าอยู่ดี ๆ ก็มีนักแสดงสาวห้าวอย่างมิเชล โรดริเกวซจากหนัง FAST ที่โผล่มาแบบไม่มีเหตุผลได้ยังไง ในแง่โทนหนังหลายครั้งก็ไม่รู้ว่ามันจะให้เรารู้สึกกับมันยังไงทั้งงานภาพแสงไฟดิสโก้แดงฟ้าที่แว่บไปแว่บมาให้คนดูแสบตาเล่นหลังจากมีคนได้รับ “เชื้อ” ไปจนถึงฉากฮา ๆ อย่างป้าเจน (เพื่อนเอมีน่ะแหละ)

ไปอ่อยหมอแต่หมอขอตัวไปอยู่กับเมียตอนได้รับเชื้อแต่หนังก็ดันเหมือนเอาจริงเอาจังว่านังเจนมันกลัวตายขึ้นสมองซะงั้นจนทำเอาคนดูยิ่งดูยิ่งน้ำในหูไม่เท่ากันไม่รู้ว่าดูไม่รู้เรื่องเองหรือหนังทำมาให้งงกันแน่ ?  she dies tomorrow ซับไทย

รีวิว she dies tomorrow 

รีวิว she dies tomorrow บทสรุป

การทำงานเรื่อง She Dies Tomorrow แต่แรกเริ่มเดิมทีนั้น ผู้กำกับเอมี่ ไชมิทต์ไม่ได้ตั้งใจจะทำเป็นหนังยาว เธอแค่หาอะไรทำฆ่าเวลาจากการเขียนบทโทรทัศน์ ประกอบกับความรู้สึกที่อยากจะลุกขึ้นมากำกับงานสักชิ้น เธอจึงชวน เจย์ ไคเทล ตากล้องและ เคต ลินน์ ชีลนางเอกของเรื่อง (ซึ่งทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทของเธอ) มาถ่ายอะไรกัน โดยใช้เวลาเพียงอาทิตย์เดียว โดยมีไอเดียคร่าว ๆ เกี่ยวกับผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังจะตายในวันรุ่งขึ้น ก่อนที่จะเกิดแรงบันดาลใจเขียนบทหนังทั้งเรื่องขึ้นมา หลังจากได้ถ่าย และตัดต่อฉากเหล่านั้นไปแล้ว

 มาว่ากันถึงนักแสดงต้องบอกว่าผู้กำกับเหมือนเลือกมาแล้วว่าคนนี้ต้องเล่นเป็นคนนี้โดยไม่ต้องพยายามไปปั้นคาแรกเตอร์มากดังนั้นตัวเอมีที่ได้เคต ลิน ชีลมารับบทนำจึงต้องเน้นหน้าสวยแต่แปลกและดูอมทุกข์ซึ่งเธอก็ประสบความสำเร็จจริง ๆ เพราะแค่เห็นหน้าคนดูก็ทุกข์ตามแล้ว ไปจนถึงเจน อดัมส์ ในบทเจนนักพฤกษศาสตร์ที่มาแพร่เชื้อความตายให้คนอื่นก็ดูไม่น่าคบหาสมาคมด้วยจริง ๆ ส่วนตัวละครอื่น ๆ ดูจบคนดูจะได้แค่ความสัมพันธ์จริง ๆ ว่าคนนี้รู้จักกับคนนั้นแต่ไม่รู้อะไรเพิ่มเติมและดูเป็นส่วนเกินของหนังไปโดยปริยาย

จุดเด่น
หนังจับคอนเซปต์ปัญหาโรคซึมเศร้ามาทำเป็นหนังได้น่าสนใจ
นักแสดงแต่ละคนถูกแคสต์มาได้เหมาะเจาะมาก

จุดด้อย
การไม่อธิบายหรือเสนอปัจจัยแวดล้อมของตัวละครหลักอย่าง เอมี ทำให้คนดูไม่อาจเอาใจช่วยเธอได้
หลายซีนในหนังไม่อาจพาคนดูไปสู่ประเด็นที่มันต้องการพูดถึงได้
การอธิบายเรื่องความตายเหมือนโรคระบาดยังไม่ลึกซึ้งเหมือนที่หนังพยายามจะสื่อสารนัก    she dies tomorrow บทสรุป

รีวิว she dies tomorrow 

โดยรวมหนัง

She Dies Tomorrow เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับผู้หญิงคนหนึ่งที่คิดว่าพรุ่งนี้ตัวเองกำลังจะตาย เธอจึงได้บอกเล่าเรื่องราวนี้กับเพื่อนของเธอ แต่เหมือนมันจะกลายเป็นเชื้อร้ายที่แพร่ความหวาดกลัวให้กับผู้คนที่ได้ยินมัน!

บอกก่อนว่านี่ไม่ใช่หนังผี ไม่ใช่หนังสยองขวัญ ไม่ใช่หนังระทึกขวัญใดๆ ทั้งสิ้น หากแต่ว่ามันกลับเป็นหนังที่บอกเล่าถึงความกลัว ความเหงา ความเศร้า ความโดดเดี่ยว และคำพูดที่มันสามารถส่งผลต่อคนอื่นได้อย่างเหลือเชื่อ

คำพูดที่ว่า “ฉันจะตายวันพรุ่งนี้” ที่ดูเป็นคำพูดลอยๆ ไม่มีเหตุใดๆ มารองรับ มันก็ยากที่จะเชื่อ แต่พอเวลาผ่านไปเมื่ออยู้ในสถานการณ์เหมาะสมและฉุกคิดขึ้นมาได้มันกลับส่งผลให้อีกหลายๆ คนคิดตาม ซึ่งมันสะท้อนออกมาให้เห็นได้ว่าคำพูดของคนนั้นมีอิทธิพลมากมายขนาดไหน

มันเหมือนความรู้สึกที่ว่าเวลาเราเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในสภานการณ์หรือสถานที่ หรือผู้คนที่ทำให้เรารู้สึกลบ มีพลังงานลบ รู้สึกหดหู่ มันคือการส่งผ่านอารมณ์ความคิดความรู้สึกของคนหนึ่งที่ถ่ายทอดสิ่งลบเหล่านั้นมายังตัวเรา หนังเรื่องนั้นให้ความรู้สึกแบบนั้นเลย  she dies tomorrow สนุกไหม

และหนังก็ไม่ได้ละทิ้งคำพูดของตัวเอง พยายามพาเราไปหาคำตอบว่าจริงๆ แล้วเธอจะตายวันพรุ่งนี้หรือเปล่านะ มีหลายสถานการณ์ที่พยายามส่งให้คำพูดของตัวละครหลักมีน้ำหนักและมีความเป็นไปได้มากขึ้น

ทั้งนี้ทั้งนั้น บทได้แสดงให้เห็นถึงการรับมือกับความตายของแต่ละคนว่าจะทำอย่างไร เมื่อรู้ว่าพรุ่งนี้ตัวเองจะตาย เราจะได้เห็นสิ่งเหล่านี้ชัดเจนมากในแต่ละตัวละคร ไม่ว่าจะเลือกที่จะปล่อยวาง เลือกอยู่กับคนรัก เลือกไม่อยู่กับสิ่งที่ตัวเองไม่รัก ซึ่งมันก็แฝงข้อความฝังมาในหัวเราว่า “เอ๊า แล้วตอนยังไม่รู้ว่าใกล้ตาย ทำไมไม่เลือกสิ่งที่ต้องการในชีวิตวะ”

แต่หนังมันไม่ได้ดูสนุกหรอกนะ มันเป็นหนังแบบ Slow Burn มากๆ ค่อยๆ เล่า ค่อยๆ นำเสนอ ค่อยๆ ถอดทอด ซึ่งถ้าใครไม่อินตาม ไม่เกาะติดจริงนี่คือถอดใจได้ง่ายๆ เลย ซึ่งในระหว่างที่เราดูเรื่องนี้ในโรง คนที่นั่งแถวเดียวกับเรา 2-3 คนก็ลุกออกจากโรงไปเลย สักพักก็ลุกออกไปอีก 1-2 คน ตอนแรกคิดว่าคงไปเข้าห้องน้ำ แต่หนังจบก็ยังไม่เห็นเขากลับมาอีกเลย 555+

สรุปแล้ว She Dies Tomorrow ไม่ใช่หนังที่เหมาะกับทุกคน เป็นหนังที่เล่าเรื่องไม่สนุกเลย แต่มันอาจให้ข้อคิดบางอย่างในขณะที่คุณกำลังมีชีวิตอยู่ก็เป็นได้ รีวิวหนังใหม่ชัด

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *