รีวิว Project Power พลังลับพลังฮีโร่ปี 2020 เมื่อมนุษย์ทุกคนสามารถเป็นฮีโร่ได้
วันนี้เรามา หนังแนะนำใหม่ แนวแอคชั่นไซไฟที่จะบอกเราว่า คนเราสามารถเป็นยอดมนุษย์ได้ด้วยยาเพียงเม็ดเดียว เกิดเป็นมนุษย์ธรรมดามันเริ่มจะน่าเบื่อไป ถ้าเกิดมียาบางอย่างที่กินเข้าไปแล้วเพิ่มพลังให้กลายเป็นฮีโร่ได้ก็น่าจะดี ไอเดียของการเปลี่ยนคนธรรมดาให้กลายเป็นซูเปอร์ถูกหยิบใส่อยู่ในหนังเรื่องนี้แล้ว ‘Project Power’ หรือชื่อไทย ‘โปรเจคท์ พาวเวอร์ พลังลับพลังฮีโร่’
ภาพยนตร์เรื่องใหม่ที่มีฉายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ทาง Netflix หนังที่เป็นทั้งไซไฟ และแอคชัน ผสานความเป็นหนังอาชญากรรม เมื่อบางคนต้องการทำธุรกิจใหม่ และยาที่ขายไม่ใช่ยาบ้าแต่เป็นยาที่ทำให้มีพลังพิเศษ มันสนุกอย่างไร ดีแค่ไหน ได้เวลามาบอกเล่าให้อ่านกัน
มันเป็นเรื่องราวของคนกลุ่มหนึ่งที่ขนผลิตภัณฑ์ชนิดใหม่เข้ามาทางเรือ ก่อนจะส่งมาให้คนอีกกลุ่มหนึ่งแบบฟรีๆ สิ่งนั้นคือ เม็ดยาที่มนุษย์ผู้ใดกินเข้าไปแล้วจะมีพลังเหมือนซูเปอร์ฮีโร่ได้ 5 นาที พอปล่อยของแล้วพวกเขาก็จากไป แต่แท้จริงพวกเขามีนัยยะแอบแฝงอยู่
รีวิว Project Power พลังลับพลังฮีโร่ปี 2020 หนังไซไฟ
ผลจากการมียาชนิดนี้อยู่ในตลาด มันได้ก่อให้เกิดธุรกิจขายยา (ที่ไม่ใช่ยาเสพติดแต่เป็นยาพาวเวอร์) โรบิน (Dominique Fishback/โดมินิค ฟิชแบก จากผลงานหนัง ‘The Hate U Give’) เด็กหญิงผิวสีคลั่งไคล้ในการร้องเพลงแร็ปที่มีแม่ป่วย และจำเป็นต้องหาเงิน เธอจึงเลือกมาทำธุรกิจค้ายาพลังฮีโร่ Project Power HD
ก่อนที่เธอนั้นจะได้มาเจอกับตำรวจอกเครื่องที่ชื่อแฟรงค์ (Joseph Gordon-Levitt/โจเซฟ กอร์ดอน-เลวิตต์ จากผลงานหนัง ‘Looper, ‘Inception’ และ ’50/50′) ที่เข้ามาช่วยเธอจากพวกอันธพาล แต่แท้ที่จริง เขาก็มีภารกิจแอบแฝงบางอย่างเช่นกัน
แถมยังมีอีกคนที่อยู่ก็เข้ามาในชีวิตเธอ เขาชื่ออาร์ต (Jamie Foxx/เจมี ฟ็อกซ์ จากผลงานหนัง ‘Django Unchained’, ‘Baby Driver’ และ ‘The Amazing Spider-Man 2’) ชายผิวสีที่เกาะติดธุรกิจค้ายาพลังนี้ด้วยเหตุผลบางอย่าง กลายเป็นตัวละครทั้งสามที่ต้องเกี่ยวข้อง และพบเจอกันด้วยสิ่งร่วมคือยาพลังที่น่าสงสัยในที่มา และจุดประสงค์ของการปล่อยของ
โดยทั่วไปของ ซูเปอร์ฮีโร่ก็มักจะให้โอกาสกับคนเพียงไม่กี่คนที่จะได้รับพลังบางอย่างมาโดยบังเอิญบ้าง ตั้งใจบ้าง แต่ครั้งนี้ การเป็นซูเปอร์ฮีโร่จะง่ายดายขึ้นกว่าเดิม สไตล์ “ใครๆ ก็เป็นฮีโร่ได้” ด้วยการกระเดือกยาเม็ดแคปซูลที่จะทำให้ผู้กินมีพลังวิเศษได้ 5 นาที แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าใครจะได้พลังวิเศษอะไร และไม่มีใครรู้ว่าจะระเบิดตายก่อนได้เป็นฮีโร่สมใจหรือเปล่า
รีวิวหนัง PROJECT POWER หนังสนุกๆ
นิวออร์ลีนส์กลายเป็นสถานที่แจกจ่ายฟรีๆ ขององค์กรธุรกิจรายหนึ่งที่ครั้งแรกก็ไม่มีใครล่วงรู้เหตุผล จนวันหนึ่ง โลกจึงได้รู้ว่าคนเมืองนั้นเป็นเพียงหนูทดลองของพวกเขาเท่านั้น และองค์กรนี้มีแผนอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่า
เมื่อตัวละครหลักสามตัว อันประกอบไปด้วย โรบิน เด็กสาวผิวสีที่ร่วมวงธุรกิจค้ายาพลังเพราะจะเอาเงินไปเป็นค่ารักษาให้แม่ ความยากจนทำให้เธอต้องลุกมาทำมาค้าขายที่สุ่มเสี่ยง แต่ก็ทำให้เธอได้เจอกับตำรวจที่มุ่งหวังจะใช้ยาพลังนี้เพื่อต่อสู้กับผู้ร้าย และเมื่อผู้ร้ายอัปพลังได้ เขาก็จำเป็นต้องอัปให้พลังมันเทียมเท่ากัน
แต่ดูเหมือนผู้ใหญ่จะไม่เห็นด้วยกับอีกคนหนึ่งที่ดูลึกลับในทีแรก ชายผิวสีอีกคนที่เข้ามาตามหาตัวเอ้คนที่ปล่อยยา และเฝ้าสืบหาต้นตอ เขามีเรื่องเบื้องหลังบางอย่าง และลีลาพะบู๊ของเขาก็ไม่ใช่ธรรมดา ดูเขาจะเตะต่อยต่อสู้ได้เก่งกว่าคนทั่วไปจนน่าสงสัย และแน่นอนว่าเมื่อเรื่องราวเดินไปถึงช่วงหนึ่ง ทั้งสามก็ต้องมาเจอะเจอกัน
ส่วนตัวคิดเองว่า ‘โปรเจคท์ พาวเวอร์’ (ที่ควรจะเขียนว่า โปรเจกต์ พาวเวอร์ มากกว่า) นอกจากจะมีความโดดเด่นในด้านความคิดที่จะให้ทุกคนสามารถจะเป็นซูเปอร์ฮีโร่ได้แล้ว ก็ยังเล่าเรื่องได้สนุก ผ่านมุมกล้องมีหวือหวา ดนตรีประกอบที่เร้าใจ ผ่านงานจัดแสงที่สวย และจัดจ้าน และสเปเชียลเอฟเฟกต์ที่ดูเนียนสมจริง
เมื่อมนุษย์ทุกคนสามารถเป็นฮีโร่ได้
แต่เมื่อ เรื่องราวเดินไป ก็อาจจะมีบ้างบางช่วงที่ดร็อปลงไป จนเผลอหนังท้องตึงไปช่วงหนึ่ง แต่โดยรวมก็ยังถือว่าเป็นหนังงานภาพดูดีจนน่าจะได้ดูบนจอใหญ่ๆ คุณจะได้เห็นทั้งซูเปอร์ฮีโร่ที่ตัวลุกเป็นไฟ ทั้งตัวที่แข็งแกร่งกระสุนเจ้าไม่เข้า ทั้งตัวที่โปร่งใสพรางตนได้ทุกที่ และ…
ได้เห็นถึงการที่ตัวละครหนึ่งเชื่อมั่นในความดีความสามารถของตัวละครอีกตัวที่มองดูคล้ายคนที่ไร้โอกาสจะแสดงออกในสังคม ได้เห็นถึงตัวละครที่พยายามอย่างสุดความสามารถในอันที่จะดึงคนในครอบครัวกลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง ในหนังซูเปอร์ฮีโร่เรื่องนี้มันมีมุมเล็กๆ ซุกซ่อนอยู่ในนั้น
หนังเรื่องนี้เหมือนเป็นหนังแนวผสมแอคชั่นของตำรวจที่ตามล่าพวกค้ายา กับเรื่องแนวพลังพิเศษ ซุปเปอร์ฮีโร่ ที่นำเสนอในแบบ “กึ่งสมจริง” ได้อย่างน่าสนใจ และถือว่าลงตัวไม่น้อย จัดว่าเป็นมิติใหม่ของหนังแนวพลังพิเศษ และซุปเปอร์ฮีโร่อีกรูปแบบเลยก็ว่าได้
ด้านนักแสดงหนังเรื่องProject Power Netflixนี้ก็ได้นักแสดงหลักเด่นๆสองคนอย่าง คือ เจมี่ ฟ็อกซ์ และ โจเซฟ กอร์ดอน เลวิทท์ มานำแสดงเป็นตัวเอกคู่ในเรื่องนี้ ส่วนงานกำกับโดย เฮนรี่ จูส และ แอเรียล ชูลมันน์ ที่เคยร่วมกันสร้าง Paranormal Activity ภาค 3-4 และ Catfish เขียนบทโดย แม็ทสัน ทอมลิน ซึ่งกำลังจะมีผลงานเขียนบทสำคัญอย่าง The Batman (2021)
ไปติดตามความสนุกกันเลยจ้า
อาร์ท (แสดงโดย เจมี่ ฟ็อกซ์) เขาเคยเป็นผู้พันในกองทัพสหรัฐ แต่ต้องกลับมาเป็นผู้ต้องสงสัยคดียา ซุปเปอร์พาวเวอร์ แต่ที่จริงแล้วลูกสาวของเขาคือ เทรซีย์ ซึ่งเป็นคนที่มีพลังพิเศษได้ถูกจับตัวไปเพื่อเอาเลือดของเธอมาใช้ในการทดลองในการผลิตยาที่ใช้ในการปลุกพลังพิเศษ เขาจึงต้องบุกตะลุยไปทั่วเพื่อตามหาว่าใครเป็นต้นตอในการผลิตยา เพื่อเป้าหมายที่จะพาตัวลูกสาวกลับคืนมาให้ได้ Project Power เต็มเรื่อง
แฟรงค์ (แสดงโดย โจเซฟ กอร์ดอน เลวิทท์) ตำรวจนอกเครื่องแบบจากนิวออร์ลีน เขาตั้งใจมากกับคดียาและผู้เสพยาพาวเวอร์ และใช้แอบใช้ยานั้นเป็นบางครั้งด้วยเพื่อจับผู้ร้าย พลังของเขาคือร่างหนังเหนียวที่กระสุนยิงไม่เข้า แฟรงค์ยังติดต่อ และขอซื้อยาจากโรบินเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ด้วย
โรบิน (แสดงโดย โดมินิก ฟิชแบ็ก) สาวน้อยผิวสีที่ฐานะทางบ้านค่อยข้างยากจน ความฝันของเธอคือการเป็นนักร้องแร็ปเปอร์ เนื่องจากต้องการหาเงินมากๆเพื่อรักษาแม่ที่ป่วยเป็นเบาหวาน เธอจึงรับยาพาวเวอร์มาขายตามท้องถนน แต่อีกด้านเธอยังร่วมมือกับแฟร้งค์ในการขายยาให้เขาไปใช้ แล้วต่อมาเธอยังร่วมมือกับอาร์ทเพื่อช่วยเขาตามหาลูกสาวด้วย
นอกจากนี้ในแง่พลังพิเศษ ยังมีการล้อเลียนเรื่องพลังที่ได้มาจากสัตว์ให้เป็นความรู้ที่น่าสนใจ บางพลังไม่มาจากสัตว์ที่ไม่น่าเชื่อด้วยซ้ำ ตรงนี้สามารถต่อยอดได้อีกเยอะถ้ามีการทำภาคต่อในอนาคต ตัวหนัง Project Power เรื่องย่อ ยังแฝงการจงใจจิกกัด และเสียดสีสังคม ทั้งผ่านทางเพลงแร็พที่สอดแทรกมาในเรื่อง ตรงนี้ก็เหมือนเอาใจ และเรียกฐานคนดูผิวสีไปในตัว เพียงแต่ประเด็นนี้ก็ไม่ได้มีการแตะลงไปลึกซึ้งเท่าไหร่นัก
รีวิว Project Power พลังลับพลังฮีโร่ปี 2020 รายละเอียดของหนัง
รีวิวหนังที่น่าสนใจ จะพูดถึงข้อด้อยของหนังก็มีอยู่เช่น การกำกับภาพในฉากแอ็กชั่นบางตอน ดูเหมือนพยายามทดลองอะไรใหม่ๆบ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ดูว้าวมากมายนัก และเอาเข้าจริงๆก็ไม่ได้มีฉากแอ็กชั่นที่น่าจดจำอะไรนัก ทั้งๆที่เป็นหนังเน้นแอ็กชั่น รวมถึงฉากต่างๆในเรื่องที่ไม่ได้ชวนให้ลุ้นอะไรเท่าไหร่นัก
ส่วนตัวหนังจะได้มีภาคต่อไหมนั้น ที่จริงแล้วหนังสามารถขยายสเกลเรื่องไปได้อีกเยอะมากโดยที่ไม่ต้องใช้ตัวละครชุดเดิมเลยก็ยังได้ เพราะเนื้อเรื่องของตัวละครในหนังมันเคลียร์ไปแทบหมดแล้ว
โดยรวมๆแล้วนั้น Project Power รีวิว ถือว่าเป็นหนังแอ็กชั่นเรื่องใหม่ของ Netflix ที่ใช้ดารานักแสดงที่คนคุ้นเคยมาเป็นตัวนำ แล้วก็น่าจะดึงคนดูได้ไม่น้อย อีกทั้งตัวหนังก็ดูจงใจจับคนดูผิวสีเป็นพิเศษ พล็อตเรื่องแม้จะมาแนวสูตรสำเร็จ แต่ก็ดูได้เพลินๆ เป็นการนำเสนอพลังพิเศษ + สู้กับพ่อค้ายาที่น่าสนใจดี สร้างภาคต่อได้ไม่ยาก ตัวหนังก็มีพากย์ไทยด้วย
ภาพยนตร์เรื่อง: Project Power / โปรเจคท์ พาวเวอร์ พลังลับพลังฮีโร่
ผู้กำกับภาพยนตร์: Henry Joost, Ariel Schulman
ผู้เขียนบท: Mattson Tomlin
นักแสดงนำ: Jamie Foxx, Joseph Gordon-Levitt, Dominique Fishback
ดนตรีประกอบ:
ความยาว: 113 นาที
ปี: 2020
แนว/ประเภท: Action, Crime, Sci-Fi, Thriller
อัตราส่วนภาพ: 2.00 : 1
ประเทศ: สหรัฐอเมรกิา
เรท: ไทย/-, MPAA/R
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 14 สิงหาคม 2020 ทาง Netflix
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Netflix, Screen Arcade, Supermarché
โปรเจคท์ พาวเวอร์ พลังลับพลังฮีโร่