รีวิว interceptor
สวัสดีค่ะวันนี้เราขอแนะนำหนังใหม่ปี 2022 อย่างเรื่อง Interceptor สงครามขีปนาวุธ ที่มีหญิงแกร่งมาเป็นตัวเอกในเรื่องโดยได้ภรรยาสุดสวยของคริส เฮมเวิร์ธ อย่างเอลซ่า พาทากี มารับบท เจเจ คอลลินส์ ทหารที่ถูกส่งกลับมายังฐานสกัดกั้นขีปนาวุธกลางทะเล ทำให้เธอคือความหวังเดียวของมวลมนุษย์ เป็นภาพยนตร์แอคชั่นมาใหม่จากทาง Netflix ที่ได้กลิ่นอายยุค 90 มอบความบันเทิงให้เราได้อย่างต่อเนื่อง โดยได้ผู้กำกับอย่าง แมทธิว ไรลีย์ และควบเขียนบทภาพยนตร์ด้วย ถือว่าเป็นภาพยนตร์ที่น่ารับชมอีกเรื่องหนึ่งเลยค่ะ หนังบู๊
เรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อผู้ก่อการร้ายข้ามชาติได้ขโมยขีปนาวุธจำนวน 16 ลูก โดยบุกเข้าไปขโมยที่สถาบันวิจัยขีปนาวุธสหรัฐ หวังว่าจะนำไปโจมตีเมืองใหญ่ ทำลายเมืองมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา โดยไม่สนว่าจะมีผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก แม้กลุ่มผู้ก่อการร้ายที่นำโดย ลูก บาร์ซี จะสามารถขโมยขีปนาวุธออกมาได้ แต่สหรัฐก็มีหน่วยสกัดขีปนาวุธ
เพื่อไว้รับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดแบบนี้ ซึ่งหากผู้ก่อการร้ายไม่สามารถบุกยึดฐานสกัดขีปนาวุธนี้ได้ สิ่งที่พวกเขาทำมาทั้งหมดจะไร้ความหมายทันที โดยฐานที่สกัดมีชื่อเรียกว่า SBX-1 ซึ่งเป็นฐานที่อยู่กลางทะเล แผนการทุกอย่างกำลังจะเป็นไปด้วยดี แต่ดันไปเจออุปสรรคอย่าง ผู้กองสาว เจเจ คอลลินส์ ที่ย้ายมาประจำการที่ฐานสกัดขีปนาวุธ
นี้ได้เพียงไม่กี่ชั่วโมง เพราะเคยไปขัดแข้งขาผู้ทรงอิทธิพล ทำให้มีข่าวอื้อฉาวและถูกสั่งย้ายมาที่นี่ และเธอก็อาจจะเป็นหมากตัวสำคัญที่จะสกัดแผนการร้ายนี้อย่างไม่คาดฝันก็เป็นได้ เพราะเธอกำลังจะกลายเป็นความหวังเดียวของเหล่าคนทั้งโลก ที่หากเธอไม่สามารถสกัดกั้นแผนการนี้ได้จะมีผู้เสียชีวิตกว่า 300 ล้านคน เจเจ คอลลินส์ จะหยุดยั้งแผนการร้ายนี้ได้หรือไม่ ต้องไปเอาใจช่วยกันนะคะ ดูหนังใหม่
รีวิว interceptor
รีวิว interceptor สำหรับเนื้อเรื่องเรามองว่าเป็นหนังสูตรสำเร็จที่เราก็สามารถเดาทางหนังออก แต่เล่นสเกลใหญ่ระดับโลกที่มีทั้งผู้ก่อการร้าย ทั้งสกัดกั้นขีปนาวุธ การโจมตี ทำลายรัฐบาล ซึ่งผู้ก่อการร้ายจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากรัสเซีย ที่หนังหลายๆ เรื่องมักหยิบยกประเด็นนี้มาเขียนเข้าไปในบทภาพยนตร์ เพราะเป็นประเทศมหาอำนาจ
ที่มีปัญหากันมานมนาน ซึ่งการดำเนินเรื่องก็ถือว่าดูได้เพลินๆ ไม่ติดขัด ได้ความรู้สึกเหมือนนั่งดูหนังบู๊สมัยก่อน ซึ่งส่วนตัวเราก็ถือว่าเป็นภาพยนตร์ที่ดีอีกเรื่องหนึ่ง แม้บทจะอวยนางเอกเอามากๆ ก็ตาม เว็บหนัง
หากมองหาความโหดของตัวร้าย อันนี้คือต้องบอกว่าไม่มี ตัวร้ายอย่างลูค บาร์ซี ที่เราหารังสีความอำมหิตของเขาไม่เจอเลย ทำให้ตัวละครไม่มีมิติ พวกลูกสมุนก็ดูไม่น่ากลัว หากหนังสามารถทำให้ตัวร้ายดูน่ากลัว และร้ายกว่านี้ได้ก็จะทำให้หนังสนุกขึ้นอีกเยอะ ส่วนนักแสดงสาวอย่างเอลซ่า ก็ทำให้หนังดูมีอะไรมากขึ้นจากบทบาทผู้กองสาวเจเจ ทำให้เห็นถึงความเก่งกาจของเธอ และยังมีคริส เฮมเวิร์ธ มาเป็นนักแสดงสมทบในเรื่องอีกด้วย interceptor สปอย
เป็นภาพยนตร์แอคชั่นที่หากมองเผินๆ แล้วไม่ได้มีความเด่นอะไรมาก ที่เด่นจริงๆ ก็คงเป็นตัวเอกของเรื่องอย่างเอลซ่า พาทากี ภรรยาของคริส เฮมเวิร์ธ ที่ฟิตหุ่นมาอย่างดีเพื่อรับบทเด่นในเรื่องนี้ ซึ่งในเรื่องเธอก็ได้แสดงสกิลการฝึกมาได้อย่างดี อย่างฉากที่ต้องโหนบาร์ที่เธอจะต้องไต่ไปทีละอันด้วยแขนข้างเดียว ทำให้เห็นถึงความแข็งแรงของ
เธอเอามากๆ ยังไม่รวมถึงฉากต่อสู้ที่เธอสามารถล้มผู้ชายได้ทั้งกลุ่มด้วยตัวเองคนเดียว จะเก่งเกินผู้หญิงไปมากแล้ว และอีกหนึ่งตัวละครที่โผล่เข้ามาเสริมบทให้กับหนังเรื่องนี้คือ คริส เฮมเวิร์ธ เทพเจ้าธอร์ สามีของเอลซ่านั่นเอง ที่โผล่ออกมาเป็นป๋าดันให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้ ทำให้หนังติดท็อปเท็นใน Netflix ไปแล้วเรียบร้อย
นักแสดงนำโดย
เอลซ่า พาทากี รับบทเป็น เจเจ คอลลินส์ ดูหนังออนไลน์
ลูค บาร์ซี รับบทเป็น อเล็กซานเดอร์ เคสเซล
ประเภทภาพยนตร์ : แอคชั่น
ผู้กำกับภาพยนตร์ : แมทธิว ไรลีย์ interceptor สปอยหนัง
ผู้เขียนบทภาพยนตร์ : แมทธิว ไรลีย์
ค่ายหนัง/สตูดิโอ : Ambience EntertainmentForyor Entertainment
คะแนน IMDb : 4.5 รีวิวหนังใหม่ชัด
พล็อตเรื่อง
ส่วนตัวแม้จะเป็นหนังที่มีบทเดิมๆ ไม่มีอะไรแปลกใหม่ แถมยังเอาประเด็นสงครามเดิมๆ มาเล่น แต่ก็ยังคงเป็นหนังแอคชั่นที่น่าดูเรื่องหนึ่ง เมื่อลองได้รับชมหนังสามารถความบันเทิงให้เราได้ในระดับที่ดี ดูได้เพลินๆ แล้วก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกเบื่อ แถมหนังยังเล่นประเด็นสังคมเรื่องการคุกคามทางเพศ ซึ่งทำให้เราเห็นความจริง
ทำให้หนังมีน้ำหนักมากขึ้น แม้บางเรื่องจะไม่มีที่มาที่ไปที่ชัดเจน ความสมเหตุสมผลก็น้อย แต่ถ้าดูเอามันส์อย่างเดียวก็ถือว่าดีเลย เพราะฉากที่ทำให้เราตื่นเต้น ลุ้นตามภารกิจไปกับนางเอกก็มีไม่น้อยเช่นกัน interceptor ซับไทย
สำหรับเรื่องนี้ ส่วนตัวเรามองว่าเป็นหนังแอ็คชั่นที่ย่อยง่ายมากๆ เนื้อเรื่องไม่มีความแปลกใหม่อะไรมากนัก พล็อตง่ายจนสามารถเดาทางได้ แต่ก็ไม่ได้ถึงกับแย่ ให้อารมณ์เหมือนดูหนังแอ็คชั่นยุคเก่าๆ ส่วนตัวผมมองว่าถือว่าเป็นหนังที่ดูได้สนุกเพลินๆเรื่องนึงเลย แต่ถึงพลาดไม่ได้ดูก็ไม่ได้เสียหายอะไร เป็นแนวแบบดูก็ดีไม่ดูก็ได้ มาเริ่มกันที่เรื่อง
บทกันก่อน ส่วนนี้ก็อย่างที่บอกไป เดาง่าย ไม่ซับซ้อน มีความไม่สมเหตุสมผลหลายอย่างพอสมควร บทอวยนางเอกจนเทพมากๆ ซึ่งผมรับได้นะ ก็หนังแอ็คชั่นดูเอาบันเทิง เพราะผมดูด้วยความไม่คาดหวังด้วยมั้ง ก็พอสนุกไปกับมันได้ แม้ว่าบทจะจำเจ แต่ก็ไม่ถึงกับน่าเบื่อ จนรู้สึกง่วงเหงาหาวนอน เพราะการดำเนินเรื่องทำได้ดีอยู่ระดับนึงเลย พอได้ลุ้น ได้ตื่นเต้นตามไปกับเรื่องราวในเรื่องได้
รีวิว interceptor บทสรุป
รีวิว interceptor โดยปกติแล้ว หนังเรื่องไหนที่ได้เจ้าของเรื่องมามาเขียนบทภาพยนตร์เอง มักจะออกมาดี คือถ่ายทอดเนื้อหาสาระจากงานเขียนมาได้ครบถ้วน แต่คงต้องยกเว้น แมทธิว ไรลีย์ ผู้นี้ไว้แล้วล่ะ เพราะตัวละครนำทั้งสองฝั่งอย่าง เจ.เจ. คอลลินส์ และ อเล็กซานเดอร์ เคสเซิล นั้นช่างแบนราบ มีการพูดถึงอดีตของคอลลินส์พอสมควร ว่าเธอเคยมีเรื่องราว interceptor บทสรุป
อื้อฉาวในกองทัพ เป็นปมในใจ แต่นี่คือหนังแอ็กชันแบบจริงจัง ซึ่งหนังเลือกที่จะโชว์ฉากพะบู๊ของเธอมากกว่า แต่หนังก็ไม่ได้กล่าวเลยว่าเหตุใดคอลลินส์ถึงเก่งกาจขนาดนี้ เชี่ยวชาญทั้งการต่อสู้มือเปล่า และอาวุธทุกรูปแบบ ขนาดที่ว่าสามารถสังหารคู่ต่อสู้ที่เป็นผู้ชายบึกบึนได้หมดทุกราย ส่วนเคสเซิลหัวหน้ากลุ่มก่อการร้ายที่ข้อมูลเบื้องหลัง
บอกว่า ได้แรงบันดาลใจมาจาก ฮานส์ กรูเบอร์ จาก Die Hard วายร้ายอันดับต้น ๆ ของภาพยนตร์ฮอลลีวูด บทแจ้งเกิดของ อลัน ริคแมน ผู้ล่วงลับ แต่เคสเซิลถ่ายทอดไม่ได้แม้เพียงเสี้ยวของกรูเบอร์เลย เคสเซิลไม่มีทั้งไหวพริบ เล่ห์เหลี่ยม และที่สำคัญ ลุค เบรซีย์ (Luke Bracey) ก็ไม่สามารถถ่ายทอดรังสีอำมหิตอย่างที่ตัวร้ายควรจะมีให้รู้สึกได้ ขนาดลูกน้องยังกล้าต่อปากต่อคำไร้ซึ่งความยำเกรงเลย รวมไปถึงเหตุผลที่เขาลุกขึ้นมาปฏิบัติการระทึกโลกเช่นนี้ก็ไม่ชัดเจน และทำไปเพื่อเป้าหมายอันใด
เชื่อแน่ว่าถ้า แมทธิว ไรลีย์ คงสถานะตัวเองไว้แค่บทภาพยนตร์ แล้วปล่อยให้ผู้กำกับมืออาชีพมีประสบการณ์มาทำหน้าที่ หนังจะออกมาสนุกกว่านี้แน่นอน เพราะพล็อตเรื่องปูมาน่าสนใจแล้ว เลือกหยิบแง่มุมที่ไม่เคยเห็นมาก่อนมาเล่า แล้วถ้าหนังสามารถสร้างภาพลักษณ์ของตัวร้ายให้ดุ น่ากลัว กว่านี้หนังจะระทึกเข้มข้นขึ้นอีกมาก
โดยรวมหนัง
จุดที่น่าชื่นชมอย่างมากก็คือ เอลซา พาทากี นางเอกของเรื่องในวัย 45 ปี (แก่กว่า คริส เฮมส์เวิร์ธ 8 ปี) ดูอ่อนกว่าวัยมาก แล้วเห็นได้ชัดว่าเธอตั้งอกตั้งใจกับบทนี้อย่างมาก ดูได้จากมัดกล้าม เชื่อว่าเธอต้องผ่านการเข้ายิมมานับร้อยชั่วโมงเป็นแน่ สุดท้ายเธอก็ได้หุ่นที่ดูเหมาะกับการเป็นนางเอกนักบู๊ และฉากที่ชวนอึ้ง ทึ่ง อย่างมาก และเป็นฉากขายบนโปสเตอร์ด้วย ก็คือการโหนบาร์ด้วยแขนข้างเดียว แล้วยังโยนตัวข้ามบาร์ต่อเนื่องเป็นสิบครั้งได้อีกด้วย ไม่ทำให้คริสผู้เป็นสามีผิดหวัง เพราะเรื่องนี้คริสเป็นผู้อำนวยการสร้าง แถมยังมารับบทสมทบในเรื่องด้วย เรียกได้ว่าทำหน้าที่ป๋าดันเมียตัวเองแบบสุด ๆ
Interceptor เรื่องนี้อาจกล่าวได้ว่าเป็นหนังสัญชาติออสเตรเลียก็ไม่ผิด เพราะนักแสดงก็เป็นออสเตรเลียล้วน ๆ ผู้กำกับ เขียนบท ก็ออสเตรเลีย แถมหนังก็ยังถ่ายทำกันในออสเตรเลีย ใช้นักแสดงหลักไม่ถึง 10 คน ฉากส่วนใหญ่ก็เป็นฉากภายในห้องบังคับการ ใช้ทุนสร้างไม่เกิน 15 ล้าน ถ้าไม่มีหน้า คริส เฮมส์เวิร์ธ โผล่มา Interceptor ก็คือหนังเกรดบีเรื่องหนึ่ง ถ้าเป็นยุคก่อนก็คือหนังที่สร้างลงดีวีดีนั่นแหละ interceptor สนุกไหม
หนังยังคงสูตรสำเร็จของหนังแอ็กชัน ด้วยการเล่นกับวินาทีฉิวเฉียดแบบเสี้ยววินาที ก็พอได้ลุ้นหน่อยนึง เพราะเราก็รู้กันอยู่แล้วล่ะว่ายังไงก็ทัน หนังพอให้ความบันเทิงได้ ไม่ถึงกับเสียเวลาดู แต่ขณะเดียวกันก็ไม่มีอะไรแปลกใหม่ เส้นเรื่องคาดเดาได้หมด ดูไปทำนู่นทำนี่ไปได้ เดินไปหยิบขนม เข้าห้องน้ำ กลับมาดูต่อก็รู้เรื่อง