เมื่อดาวหางพุ่งเข้าใส่โลกและครอบครัวของเขาถูกกำหนดให้รอดพ้นจากหายนะครั้งนี้
หลังจากที่ห่างหายจากหนังแนวโลกสลายไปสักพัก รีวิว Greenland วนไปอยู่กับ เว็บดูหนังเถื่อน หนังแนวอื่นๆ เสียจนเกือบลืมว่า หนังแนะนำใหม่ ยังมีหนังแนวนี้ที่ชักชวนให้คนลุกออกจากบ้านมาดูความหายนะที่ได้เกิดขึ้นขึ้นกับโลกของเรา ในวันนี้หนังแนวนี้ได้กลับมาแล้วครับ คราวนี้มหันตภัยเป็นเหตุดาวหางพุ่งชนโลก หนังมีชื่อว่า ‘Greenland นาทีระทึก…วันสิ้นโลก’ชื่ออังกฤษเป็นดินแดนแห่งหนึ่งที่ปกคลุมด้วยน้ำแข็ง
แต่ชื่อไทยบ่งบอกชัดๆ ว่ามันเป็นหนังแนวไหนโดยหนังเรื่องนี้กำกับโดยผู้กำกับชื่อ Ric Roman Waugh เป็นชายผู้ชื่อเสียงในงานสตันท์ แต่มีดีด้านการเขียนบทและกำกับหนังด้วย ถ้าถามว่างานคุ้นชื่อของเขามีเรื่องไหนบ้าง ที่พอจะมีคนไทยหลายคนรู้จักหน่อยก็น่าจะ Snitch และ Angel Has Fallen รับชมและติดตามหนังเรื่องอื่นได้ที่ DP หน่วยล่าทหารหนีทัพ
รีวิว Greenland นาทีระทึก วันสิ้นโลก
เป็นหนังที่ที่มีเรื่องราวเกี่ยวข้องกับภัยพิบัติธรรมชาติ เป็นหนังที่คนไทยชื่นชอบและรอคอยกันมาตลอด กับเนื้อเรื่องที่เล่าง่ายๆ ไม่ซับซ้อน มุ่งเน้นไปทางฉากความวินาศสันตะโร กับสถานการณ์ที่ทำให้เราได้ลุ้นระทึกและมีความตื่นเต้นไปตลอดตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบ
เนื่องจากหนังเรื่องนี้เป็นหนังแนวที่คนไทยไม่ได้ดูกันมาในสักระยะนึงแล้ว เลยทำให้หนัง Greenland นาทีระทึก..วันสิ้นโลก มาสเตอร์ มีแต้มต่อในใจที่กระตุ้นทำให้เราอยากไปดูหนังเรื่องนี้เป็นพิเศษ รีวิว Greenland
เรื่องย่อ Greenland - นาทีระทึก วันสิ้นโลก
เป็นฉากเหตุการณ์ของครอบครัวหนึ่ง ที่จะต้องหลีกหนีจากเหตุการณ์ภัยพิบัติดาวหางพุ่งมาชนโลก โดย John Garrity (Gerard Butler), Allison (Morena Baccarin) และ Nathan ลูกชายของพวกเขาต้องเดินทางฝ่าอันตรายเพื่อไปยังสถานที่ปลอดภัย ท่ามกลางข่าวร้ายว่าเมืองต่างๆ
ทั่วโลกถูกทำลายด้วยชิ้นส่วนของดาวหางนี้โดยปกติแล้วเป็นคนที่ชอบดูหนังแนวนี้มาก ชอบมาตั้งแต่เด็ก เรื่องแรกๆ ที่ดูน่าจะเป็น Twister (1996), Volcano (1997) และ The Day After Tomorrow (2004) โดยเฉพาะเรื่องหลังนี่ดูบ่อยมาก ดูจนแผ่นพัง (ที่ดูบ่อยตีคู่กันคือ Independence Day
แต่ความจริงแล้ว อาจจะพูดได้เลยว่าเป็นหนังหายนะเลยก็ได้นะ แต่มันดูเป็นหนังเอเลี่ยนบุกโลกมากกว่า แต่แม้ว่าจะเป็นประเภทหนังที่ชอบ ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าหลังๆ หนังภัยพิบัติไม่ได้มอบอะไรที่แปลกใหม่กับเรานักที่เกิดขึ้นใหม่ก็คงจะเป็นในแง่ของภาพประกอบ (Into the Storm ที่เป็น Twister ฉบับ Found Footage) เป็นการนำเสนอเรื่องราวที่ซับซ้อนขึ้น ฉีกแนวมากยิ่งขึ้น (Geostorm ที่เป็น 2012 เวอร์ชั่นเครื่องจักรเปลี่ยนธรรมชาติ)
แต่สุดท้ายก็จบลงปลายทางที่เหมือนกันเพราะในเนื้อหาเรื่องที่ได้ถูกเล่าจริงๆ ไม่ได้ถูกเปลี่ยนไปจากหนังเดิม ถ้าให้นับช่วง 2010’s เรารู้สึกว่าหนังภัยพิบัติที่ดีที่สุดคือหนัง ภัยพิบัติ-ดราม่า ที่พูดถึงมนุษย์ในวิกฤตอย่าง The Impossible (2012) หรือ The Wave (2015) ที่ว่าด้วยการพลัดพราก และเริ่มต้นใหม่ซึ่งจริงๆหนังเรื่องนี้ Greenland (2020) ก็เป็นหนึ่งในหนังแรวนี้ เพราะเรื่องราวได้พูดถึงวิกฤตจากดาวหางยักษ์ การเอาชีวิตให้รอดจากภัยพิบัติ และเหตุการณ์ที่ทำให้ครอบครัวแตกแยกจากกันคนละทิศคนละทาง
เนื้อเรื่อง
กล่าวถึงเหตุการณ์อุกกาบาตขนาดใหญ่ที่ชื่อคลาร์กที่มุ่งตรงมาถล่มโลก แต่รัฐบาลกลับสามารถช่วยเหลือคนได้เพียงบางกลุ่ม จึงเลือกคนในสาขาอาชีพที่จำเป็นต่อมนุษย์ได้เดินทางสู่ที่หลบภัยโดยหนึ่งในนั้นได้แก่ครอบครัวแกริตี้ประกอบด้วย จอห์น (เจอร์ราด บัตเลอร์) พ่อบ้าน ที่มีอาชีพเป็น วิศวกรโครงสร้าง และมีภรรยาคนสวยที่ชื่อ เอลลี (โมเรนา บัคคาริน) และเนธาน (โรเจอร์ เดล ฟลอยด์) ลูกชายของพวกเขาที่เกิดมาเป็นโรคเบาหวานแต่กำเนิด
แต่ในระหว่างทางที่ครอบครัวของเขากำลังจะไปสู่ กรีนแลนด์ ซึ่งเป็นพื้นที่หลบภัยที่รัฐบาลเป็นคนจัดให้ ทำให้ครอบครัวของพวกเขาต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย ทั้งผู้คนที่ไม่พอใจที่ตัวเองไม่ได้รับเลือกหรือเหล่านักเลงเริ่มออกปล้นสิ่งของจากร้านค้าจนบ้านเมืองเข้าสู่ความวุ่นวาย อย่างสมบูรณ์แบบ และในขณะที่ทุกคนต่างก็กำลังพยายามเอาตัวรอด ก็เริ่มเห็นถึงสัญชาตญาณดิบของมนุษย์ที่ทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองได้มีชีวิตรอดจากเหตุการณ์นี้
การดำเนินเรื่อง
ก่อนอื่นก็คงจะต้องบอกไว้ก่อนว่าหนังเรื่องนี้ อาจไม่ได้มีรูปรอยการเล่าเรื่องที่ต่างจากหน้งโลกวิบัติเรื่องอื่นนัก มันยังมีฉากอุกกาบาตถล่มเมือง ฉากร้านสะดวกซื้อที่ถูกปล้นและถูกเผา รวมไปถึงคาแรกเตอร์ของมนุษย์ที่มีความเห็นแก่ตัวและรวมถึงฉากสถานการณ์ที่บีบบังคับ จนทำให้พระเอกต้องวิ่งออกมาเอายาเบาหวานให้ลูกชายของเขา
และในตอนนี้เครื่องก็ใกล้จะออกแล้วด้วยนะ แต่ต้องชื่นชม ริก โรมัน วาฟที่ยังอุตส่าห์หามุมใหม่ในการเล่าเรื่องให้สนุกและลุ้นไปกับพระเอกได้อย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะการเปรียบเปรยระบบการคัดเลือกผู้รอดชีวิตของรัฐบาลที่แทบไม่ต่างจากพระเจ้า โดยหนังก็สามารถสร้างซีนสะเทือนอารมณ์ได้ตั้งแต่ซีนแรก ๆ อย่างการปฏิเสธรับเด็กสาวข้างบ้านแม้จะเป็นเพื่อนของลูกชายเพียงเพราะกฎห้ามนำคนอื่นเข้าไปในสนามบิน ซึ่งลำพังซีนนี้ซีนเดียวเราก็สัมผัสได้แล้วว่าตัวหนังจะต้องมีอะไรมาช็อกความรู้สึกคนดูแน่ ๆ
และแล้วมันก็มีฉาก เรื่องราวของตัวละครคนร้ายที่โชว์สัญชาตญานดิบของมนุษย์ที่ดูโหดร้ายหลายฉากทั้งกราดยิงในร้านยา ฉากคนแปลกหน้าที่พร้อมห้ำหั่นกันให้ได้สิทธิเดินทางไปยังที่ปลอดภัยโดยไม่สนหลักการมนุษยธรรมใด ๆ เลยทำให้มันโดดเด่นออกมาจากหนังภัยพิบัติโลกแตกเรื่องอื่นที่พยายามเน้นฉากโชว์สเปเชียลเอฟเฟกต์อลังการแต่ตรงข้าม GREENLAND สามารถเล่าเรื่องในเชิงหนังเอาชีวิตรอดได้อย่างระทึกใจและกระแทกความรู้สึกคนดูได้อย่างไม่น่าเชื่อและทีละน้อยมันก็ค่อย ๆ ปรับสู่สารด้านศาสนาอย่างไม่ต้องสงสัย
จุดเด่นๆที่บอกได้อย่างชัดเจนคือหนังพยายาม ให้เราได้เห็น ป้ายโบสถ์บัพติศมา (Babtism) ซึ่งในทางสัญลักษณ์แล้วก็เดาได้ไม่ยากว่ามันจะนำไปสู่การพูดเรื่องการล้างบาปแน่นอนโดยเฉพาะกรณีของจอห์นที่แบกความผิดบาปต่อครอบครัวเป็นส่วนผลักดันให้เขาพาเมียและลูกตัวเองออกเดินทางไปในที่ปลอดภัยให้จงได้
จุดเด่น
โดยรวมแล้วหนังเรื่องนี้มีจุดสำคัญคือ สเปเชียลเอฟเฟกต์ที่ดูสวยงาม แต่ GREENLAND ก็ทำออกมาได้เป็นอย่างดี โดยนอกจากฉากอุกกาบาตพุ่งชนโลกจนเกิดความวินาศสันตะโรแล้ว มันยังทำหน้าที่รองรับเรื่องราวที่เล่าผ่านท้องฟ้าลุกเป็นไฟสร้างบรรยากาศวันสิ้นโลกให้เราได้ตามตัวละครไปลุ้นกับการเอาชีวิตรอดของเขาแทนซึ่งถือเป็นความโชคดีที่หนังก็ได้นักแสดงที่ดีเสียด้วย
แม้เจอร์ราด บัตเลอร์ จะสร้างชื่อเสียงในฐานะดาราหนังบู๊แต่สำหรับ GREENLAND ผู้กำกับอย่าง ริก โรมัน วาฟ ที่พ่วงกันมาจาก Angle Has Fallen (2019) กลับทำให้เขาเติมความเป็นมนุษย์ทั้งความเป็นพ่อและสามีลงไปในตัวละคร
ในส่วนของ โมเรนา บัคคาริน ดาราสาวเมืองบราซิล ที่หลายๆ คนคงรู้จักเธอกับบท วาเนสซา แฟนของ Deadpool นอกจากความสวยของเขาที่มองเพลินเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ฝีมือการแสดงของเขาก็ไม่ได้ดีน้อยไปกว่ารูปร่างหน้าตาของเธอเลยเราสัมผัสได้ถึงความเป็นแม่ที่อยู่ในทุกซีนจนเราอดลุ้นตามไม่ได้ ในการแสดงเป็นแม่และแฟนของ เจอร์ราด บัตเลอร์
นั้นมีหลายจุดที่สำคัญมากที่ทำให้ลุ้นและเอาใจช่วยเธอซึ่งพลังทางการแสดงของทั้ง 2 ช่วยยกระดับเรื่องราวให้น่าติดตามมากยิ่งขึ้น ซึ่งส่วนตัวชอบดราม่าครอบครัวที่นำเสนอมากเป็นพิเศษ ซึ้ง สะเทือนใจ จนบางคนอาจมีน้ำตาซึม
รีวิว Greenland รายละเอียดของหนังนาทีระทึก..วันสิ้นโลก
Greenland
หนังหายนะวันสิ้นโลกที่มุ่งเน้นเล่าเรื่องราวของครอบครัวหนึ่งที่ถูกเลือกให้เป็นผู้รอดได้เข้าไปหลบภัยในบังเกอร์ของทหาร แต่กลับถูกเหตุบางอย่างทำให้พวกเขาต้องพลัดพราก และเกือบทั้งเรื่องพวกเขาต้องตามหาซึ่งกันและกัน โดยมีเหตุดาวหางถล่มโลกเป็นพื้นหลัง เรื่องราวที่เดินไปอย่างลุ้นพอตัวว่าพวกเขาจะรอดไหมในสถานการณ์ที่บีบคั้นเช่นนี้ เป็นวิธีการหนึ่งที่น่าสนใจในกรณีจะทำหนังภัยพิบัติแต่ไม่ต้องการผลาญงบ
ชื่อภาพยนตร์: Greenland / นาทีระทึก..วันสิ้นโลก
ผู้กำกับภาพยนตร์: Ric Roman Waugh
ผู้เขียนบท: Chris Sparling
นักแสดงนำ: Gerard Butler, Morena Baccarin, Roger Dale Floyd
ดนตรีประกอบ: David Buckley
ความยาว: 119 นาที
ปี: 2020
แนว/ประเภท: Action, Thriller
อัตราส่วนภาพ: 2.39:1
ประเทศ: สหรัฐอเมริกาเรท: ไทย/-, MPAA/PG-13
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 24 กันยายน 2020
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: G-BASE, Anton, Riverstone Pictures, STX Films
บทและพล็อต – 7
การแสดง – 7.5
เพลง/ดนตรีประกอบ – 7.1
การดำเนินเรื่อง – 6.8
งานภาพ – 6.9
7.1