รีวิว Fantastic Beasts and Where to Find Them (2016)
สวัสดีจ้าวันนี้แอดจะมารีวิวหนังเรื่อง Fantastic Beasts and Where to Find Them (2016) สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ เกิดเหตุอันตรายขึ้นในโลกเวทย์มนต์ที่นิวยอกร์กในปี 1962 โดยมีสิ่งประหลาดลึกลับก่อเหตุสร้างวุ่นวายและความเสียหายในท้องถนน เพื่อเปิดโปงพวกกลุ่มเวทมนต์ต่อพวกลัทธิเซเลม Gen2 โนแมจ (Dan Fogler) มักเกิ้ลหรือมนุษย์ที่ไร้เวทย์มนต์ ต้องการจะกำจัดให้สิ้นซาก โดยพ่อมดร้ายอย่าง เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ (Johnny Depp) หลังสร้างเรื่องก็ได้หนีหายไป
นี่คือหนังภาคแยกของมหากาพย์โลกเวทย์มนต์อย่าง Harry Potter ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อน Harry Potter ซึ่งมีความสดใหม่กว่า HP นัก เนื่องจากเป็นเรื่องราวที่ถูกเขียนขึ้นที่หลัง HP และตัวละครก็ถูกเนรมิตขึ้นใม่ทั้งหมด HP เป็นเหตุการณ์ที่ถูกเขียนขึ้นเป็นหนังสือซึ่งอาจจะส่งทั้งผลดีและผลเสียต่อเนื้อเรื่อง หากแฟน ๆ อ่านหนังสือก็จะเกิดการ
เปรียบเทียบขึ้นทันที หนังสือสนุกกว่าบ้างล่ะ ภาพยนตร์สนุกกว่าบ้างล่ะ และก็จะเกิดข้อกังขาทันทีเมื่อน้ำเนื้อหาที่หนาปึ้กในหนังสือมาลงในภาพยนตร์ไม่หมด แต่ Fantastic Beasts คือบทบาทที่เขียนขึ้นใหม่ ไม่มีเรื่องราวอะไรบอกใบ้ในหนังสือ HP มาก่อน
หนังใช้โลเกชั่นส่วนมากในสหรัฐอเมริกา แต่สิ่งที่แตกต่างจากมากจาก HP คือบรรยากาศของหนังที่มีความโตขึ้น มีความเป็นผู้ใหญ่ขึ้น หนังเน้นไปที่สัตว์วิเศษ ที่เราจะเคยเห็นในหนังHP มาบ้าง แต่ในภาพยนตร์เรื่องนี้จะลงรายละเอียดมากกว่าเก่า เรียกว่าเป็นภาคแยกของสัตว์วิเศษเลยก็ว่าได้
การขายความน่ารักของสัตว์เหล่านี้ถือว่าได้ผลอยู่ครับเพราะมันก็น่ารักจริง ๆ นั่นแหละ นี่ละนะจินตนาการของนักเขียนระดับโลกอย่าง เจ.เค. โรวลิ่ง และด้วยความที่เป็นภาคแยกจากHP ก็จะมีตัวละครจาก HP มาพูดถึงบ้าง และที่ต้องชมเลยคือ CG สวยมากครับ ต้องชื่นชมเลยที่เอาจินตนาการมาขึ้นจอหนังได้อลังการและเทคนิคตระการตาน่าดู
การเดินเรื่องอืดไปบ้างตามประสาหนังภาคแรก เพราะว่าหนังต้องลงรายละเอียดและสีสันที่สำคัญให้กับหนังค่อนข้างเยอะ ทำให้เวลาสองชั่วโมงดูน้อยไปที่จะมารองรับหนังใหญ่ขนาดนี้ เพราะการปูพื้นหนังค่อนข้างกินเวลาไปเยอะ ทำได้ดีแม้จะสู้ HP ไม่ได้ก็ตาม คงเป็นเพราะทำมาตรฐานไว้สูงมากนั่นแหละ
ส่วนนักแสดงก็ถือว่าโอเคอยู่ทำได้ไม่เลวกับปฐมบทใหม่ของเรื่องนี้ เนื้อหาของเรื่องมันก็ไม่ได้มีสาระและเยอะแยะอะไรมากมายขนาดนี้ หนังไม่เมคเซนส์ในเรื่องของความเก่าใม่ของ CG เนื่องด้วยไทม์ไลน์ของหนังคือเหตุการณ์ที่เกิดก่อน HP แต่ภาพกลับใหม่กว่า ดูสวยสดงดงามกว่าเยอะ
คะแนนเนื้อเรื่อง 8/10 ไทม์ไลน์ของหนังซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดก่อน HP ค่อนข้างเรียกความสนใจของผู้ชมได้มากพอดู ซึ่งในเรื่องนี้จะเป็นการเล่าต้นกำเนิดของสัตว์วิเศษที่หลาย ๆ คนคุ้นกันใน HP รวมถึงพาไปรู้จักกับตัวละครใหม่ ๆ ที่จะทำให้เรารู้จัก HP มากขึ้น
ข้อคิดที่ได้จากภาพยนตร์เรื่องนี้
1. จินตนาการสำคัญมาก นี่คือผลผลิตจากจินตนาการของเจ เค โรวลิ่ง และจินตนาการคือการสร้างสิ่งใหม่ การคิดฉีกกรอบและทำให้มีสิ่งใหม่ ๆ เกิดขึ้นในโลกภาพยนตร์ที่นอกเหนือจากเวทย์มนต์
2. แม้ไม่เคยดู HP ก็ดู FB รู้เรื่อง แม้จะมีการเชื่อมโยงกันกับHP แต่ว่าหนังเองก็เหมือนเป็นแฟรนไชส์แยกตัวออกมา ไม่ได้จำเป็นว่าไม่เคยดู HP แล้ว FB จะหมดสนุก
นี่เป็นหนังที่แฟน HP ต้องดูอย่างยิ่ง เพราะว่าเป็นภาคไทม์ไลน์ก่อนเกิดHP และในภาคต่อ ๆ ไปจะมีความเชื่อมโยงกับ HP มากขึ้นครับ อย่างน้อยถ้าไม่ใช่แฟน HP ก็จะได้เห็นสัตว์สวย ๆ มากมายอยู่ดีก็ถือว่าคุ้มครับ หนังแนะนำใหม่
รีวิว Fantastic Beasts and Where to Find Them (2016)
หลายๆ คนตกใจเมื่อเราบอกว่ายังไม่ได้ดู Fantastic Beasts and Where to Find Them ซึ่งเป็นภาค 1 ในขณะที่ภาค 2 อย่าง The Crimes of Grindelwald เพิ่งเข้าโรงไปเอาจริงๆ แม้แต่เราก็ยังแปลกใจตัวเองว่าทำไมดองเรื่องนี้มานาน ในฐานะที่เป็น Potterhead คนหนึ่ง แกควรจะตามแฟรนไชส์นี้อย่างแนบชิดไม่ใช่รึ
อันที่จริงเราก็ไม่ได้นิ่งอยู่เฉย เพราะตอนที่ดูภาค 1 ในโรงไม่ทัน เราก็ไปหาหนังสือมาอ่านก่อน ซึ่งถ้าถามว่าสนุกไหม ก็ตอบได้ไม่เต็มปากแฮะ อาจจะเป็นเพราะเราไม่ชินกับ Format การเล่าเรื่องแบบบทละครที่ใช้ในหนังสือ ไม่ใช่การเล่าเรื่องแบบนิยาย เวลาอ่านมันเลยงงนิดๆ เมื่อเจอศัพท์ภาพยนตร์ต่างๆ แทนที่จะเจอคำบรรยายให้เห็นภาพ อีกปัจจัยหนึ่งอาจเป็นเพราะเนื้อเรื่องมีความแฟนตาซี แต่พอเจอศัพท์ยากๆ และการบรรยายที่ไม่คุ้นเคย ก็ทำให้นึกภาพตามยาก เลยคิดว่าถ้าดูเป็นหนังน่าจะสนุกกว่า
วันนี้ฤกษ์งามยามดี หนึ่งวันก่อนจะไปดูภาค 2 ในโรงหนัง เราเลยกลับไปดูภาค 1 ซะให้เรียบร้อย ซึ่งจุดนี้แหละเราขอบคุณตัวเองที่อ่านหนังสือมาก่อน มันทำให้ดูหนังมีอรรถรสยิ่งขึ้นจริงๆ
Fantastic Beasts and Where to Find Them นี้เล่าเรื่องย้อนกลับไปเมื่อ 70 ปีก่อนที่จะเกิดเรื่องแฮร์รี่ พ็อตเตอร์ เป็นสมัยช่วงปี 1920 ซึ่งตัวเอกก็คือนิวท์ สคาแมนเดอร์ พ่อมดนักสัตว์วิเศษวิทยาผู้หลงใหลในการเรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์วิเศษ เขาเดินทางจากลอนดอนมานิวยอร์กเพื่อทำภารกิจบางอย่าง
แต่แล้วความโกลาหลก็เกิดขึ้นเมื่อเขาเผลอสลับกระเป๋ากับเจคอบ มนุษย์คนหนึ่งที่เผลอเห็นเขาใช้เวทมนตร์โดยบังเอิญ กระเป๋านั้นไม่ใช่กระเป๋าเก็บเอกสารของใช้ส่วนตัว แต่เป็นกระเป๋าที่ไว้ใช้เก็บสัตว์วิเศษของนิวท์ คราวนี้เรื่องวุ่นวายก็เกิดขึ้นเมื่อสัตว์วิเศษหลายตัวหลุดออกมาจากกระเป๋า เพ่นพ่านไปทั่วนิวยอร์ก นิวท์ต้องร่วมมือกับเจคอบ ทิน่า
มือปราบมารแห่งกระทรวงเวทมนตร์อเมริกา และควีนี่ น้องสาวของเธอ ในการตามสัตว์พวกนั้นกลับมา รวมถึงยังต้องรับมือกับพลังลึกลับแปลกประหลาดที่ทำลายบ้านเมืองแถมยังฆ่าคนอีก ซึ่งนิวท์มั่นใจว่าไม่ใช่ฝีมือสัตว์วิเศษแน่นอน
ความรู้สึกหลังดู
Fantastic Beasts and Where to Find Them หรือชื่อไทย สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ เป็นภาพยนตร์ side story ของนิยายชื่อดังแฮร์รี่ พอตเตอร์ ซึ่งผู้เขียนบทก็ไม่ใช่ใคร เจ. เค. โรว์ลิง ผู้เขียนแฮร์รี่ พอตเตอร์นั่นเอง ซึ่งก็เป็นการเขียนบทภาพยนตร์เรื่องแรกของเธอด้วย
ถ้าใครจำได้ ในเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ จะมีหนังสืออยู่เล่มหนึ่งชื่อว่า สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ และหนังสือเล่มนี้ก็ตีพิมพ์มีขายในโลกมักเกิลด้วย ในหนังสือเป็นเรื่องเกี่ยวกับข้อมูลของสัตว์ต่างๆ ในโลกเวทย์มนต์ ซึ่งมีหลายตัวที่ยังไม่เคยปรากฏในหนังแฮร์รี่ พอตเตอร์
สรุปรีวิว Fantastic Beasts and Where to Find Them สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ เวทย์มนต์ของ เจ. เค. โรว์ลิง ยังคงอยู่ กลิ่นอายและสเน่ห์ของแฮร์รี่ พอตเตอร์
ยังอบอวลอยู่ในเรื่องนี้ หลายจุดในหนังเชื่อมโยงไปยังเนื้อหาหลัก ทำให้บางเหตุการณ์ในหนังสือที่มันยังดูงงๆ นั้นถูกเติมเต็มจนครบถ้วน
เป็นเรื่องที่แฟนแฮร์รี่ยังไงก็ต้องดูต้องเก็บกันให้ครบทุกภาค บทหนังยังไม่สุดเท่าไหร่ และเนื้อเรื่องหลักไม่ใช่สัตว์วิเศษอย่างที่คาดหวัง
เป็นเนื้อหาที่คนที่ไม่เคยดูแฮร์รี่ พอตเตอร์มาก่อนก็สามารถดูได้
สำหรับคนที่เป็นแฟนแฮร์รี่อยู่แล้วนั้น เราว่าน่าจะชอบเรื่องนี้ เพราะหนังได้ทำการพาเราท่องไปในมุมมองอีกด้านหนึ่งของโลกเวทมนตร์ อย่างตอนแฮร์รี่นี่ก็จะเป็นฉากโรงเรียน บรรยากาศจะเด็กๆ หน่อยใช่มั้ย แต่ Fantastic Beasts นี่จะเป็นฟีลแบบวัยทำงาน วัยผู้ใหญ่เลย เราจะได้เห็นระบบการทำงานของกระทรวงเวทมนตร์สหรัฐฯ
การทำงานของมือปราบมาร ซึ่งมันก็จะซีเรียสกว่าเดิมนิดนึง แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่ทิ้งเวทมนตร์นะ กลับกันคือผู้ใหญ่ใช้เวทมนตร์กันกระจุยกระจายมาก เราได้เห็นการใช้เวทมนตร์นอกเหนือจากห้องเรียน ซึ่งมันก็น่าตื่นตาตื่นใจดี
อีกจุดที่ไม่ถูกถึงไม่ได้คือเหล่าสัตว์วิเศษที่ได้ซีจีสวยอลังมาเนรมิตให้มีชีวิต เอาจริงๆ ก่อนหน้านี้เราก็ไม่ได้อินอะไรกับสัตว์วิเศษเท่าไร แต่พอมาเล่นเกม Harry Potter: Hogwarts Mystery เราก็เริ่มคุ้นหน้าคุ้นตาพวกมันมากขึ้น ผ่านการเข้าคลาส Care for Magical Creatures และการใช้งานพวกมันในภารกิจต่างๆ
พอมาดูหนังเรื่องนี้มันยิ่งทำให้อินมากขึ้น เพราะได้เห็นสัตว์ที่เราเห็นในเกม มีตัวตนขึ้นมาจริงๆ ไฮไลต์สุดๆ น่าจะอยู่ที่ตัวนิฟเฟลอร์ ตัวที่คลั่งไคล้สิ่งของวิบๆ วับๆ นั่นละ เจอกันบ่อยมากในเกม มาในหนังยังเป็นพระเอกอีก