รีวิว Carrie – สาวสยอง

รีวิว Carrie – สาวสยอง

หนังสยองขวัญ Carrie สาวสยอง เป็นเรื่องของเด็กสาวขี้อาย ไม่กล้าแดงออกและอ่อนต่อโลก ผู้มีแม่ที่คลั่งในศาสนาและมีอาการทางจิตที่ไม่ค่อยปกตินัก สิ่งเหล่านี้ทำให้เธอกลายเป็นตัวประหลาดที่ไม่ค่อยมีคนอยากสุงสิงด้วยสักเท่าไหร่ และกลายมาเป็นตัวตลกประจำโรงเรียนที่ถูกกลั่นแกล้ง จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อความเลวร้ายถึงขีดสุด เธอก็ปลดปล่อยทุกอย่างที่เก็บกักจนกลายมาเป็นความสยดสยอง

แคร์รีย์ ไวต์ เด็กสาวที่ถูกเลี้ยงดูมาโดยแม่ผู้เคร่งศาสนา แถมต้องเจอกับบรรดาเพื่อนๆที่กลั่นแกล้งจนเธอต้องอับอาย ในขณะเดียวกันเธอก็บังเอิญได้พลังพิเศษเหนือมนุษย์มา จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่นำไปสู่เหตุการณ์อันน่าสยดสยอง 

เว็บดูหนัง

รีวิว Carrie - สาวสยอง

 

Kimberly Peirce ผู้กำกับสาวจากเรื่อง ‘Boys Don’t Cry’ หยิบมาปัดฝุ่นอีกครั้งในวันที่โลกแห่งสเปเชี่ยลเอฟเฟกต์และเทคนิคการถ่ายทำก้าวล้ำไปมาก เรื่องราวของสาวน้อยขี้อายผู้ซึ่งมีพลังจิตที่ได้รับผ่านทางลายเลือด ที่ถูกบีบคั้นจนสร้างเหตุการณ์สยองขึ้นมาในที่สุด สร้างจากนิยายสุดคลาสสิกของ Stephen King มันเคยเป็นหนังสยองขวัญขึ้นหิ้งในปี 1976

ในครั้งนั้นแครี่กำกับโดย Brian De Palma และเขียนบทโดย Lawrence D. Cohen ซึ่งมาในฉบับนี้ ก็ยังคงเป็นคนเดิมที่ร่วมเขียนบทกับ Roberto Aguirre-Sacasa

ในภาคนี้ ผู้รับบทเป็นนางเอกพลังจิต แคร์รี่ ไวท์ คือ Chloë Grace Moretz สาวน้อย ‘Kick-Ass’ ทั้งสองภาคนั่นเอง โดยมี Julianne Moore รับบทเป็นแม่ของเธอ และมี Portia Doubleday และ Gabriella Wilde ร่วมรับบทบาทเพื่อนที่จะมีผลสำคัญต่อพฤติกรรมของสาวแคร์รี่

จำได้เพียงรางๆ กับภาพในหนังสยองขวัญเวอร์ชั่นเก่า จนไม่อยากขอนำมาเปรียบเทียบ แต่เชื่อขนมกินได้ว่า ‘สาวสยอง’ ภาคนี้มีดีที่เทคนิคพิเศษที่ทำออกมาได้ดูดี

แต่หนังสยองขวัญที่จะดูสนุก มันคงไม่ใช่อะไรที่มีดีเพียงเท่านั้น การเล่าเรื่องดูจะไม่เน้นเรื่องราวที่ลงลึกอะไรมากนัก เพียงแต่บอกว่าเกิดอะไรขึ้นและส่งผลอย่างไรต่อเพียงเท่านั้น ผู้ชมเลยอาจไม่มีอารมณ์ร่วมเท่าไหร่กับหนัง ที่พอจะทำให้ตื่นเต้นได้พอประมาณ ดูได้เพียงเพลินๆ ไม่ได้ถึงกับแย่แต่ก็ยังไม่ดีเท่าที่ควร

รีวิว Carrie - สาวสยอง

 

หนังทำให้เราได้รู้จักกับแครี่ตั้งแต่กำเนิดซึ่งชีวิตเธอก็เริ่มต้นความสยองตั้งแต่จุดนั้นแล้ว ก่อนที่โตมาจะเริ่มรู้ว่าตัวเองมีความสามารถด้านการย้ายสิ่งของด้วยพลังจิต และความเป็นเด็กขี้อายก็ทำให้เธออยู่ในสภาวะที่บีบคั้นจนต้องระเบิดมันออกมาในที่สุด

สิ่งที่ผมรู้สึกจากหนังเรื่องนี้ คงเป็นจุดที่เขาทำให้เด็กสาวขี้อายไร้เดียงสาผู้อาภัพคนหนึ่ง ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงจากเด็กสาวผู้ยุ่ง กลายเป็นเด็กสาวผมยาวสลวยหน้าตาจิ้มลิ้ม เธอค่อยๆ ดูดีขึ้นเรื่อยๆ Chloë Grace Moretz ไม่ได้เป็นคนสวยอะไรมากนัก แต่เธอก็เป็นสาวที่ยิ้มน่ารัก

ขณะที่แคแรคเตอร์คุณแม่สุดเพี้ยนผู้เคร่งศาสนามากเกินก็ดูจะเหมาะกับ Julianne Moore ดีนะครับ อีกสาวที่ผมประทับใจก็คงจะเป็น Gabriella Wilde สาว Constance จาก ‘The Three Musketeers’ และกำลังจะมีบทนางเอกในหนังรัก ‘Endless Love’สวยคมมาตั้งแต่ต้นจนจบ น่าเสียดายที่เธอมีบทบาทน้อยเกินไปหน่อยนะ

รีวิว Carrie - สาวสยอง
รีวิว Carrie – สาวสยอง

รีวิว Carrie สาวสยอง

หากเทียบกันแล้วฉบับดั้งเดิมของ Brian De Palma สยองและดูขลังกว่า แต่สำหรับฉบับใหม่นี่ผมชอบที่การเล่าเรื่องครับ มันชวนติดตามดี และชอบการแจกแจงคาแรคเตอร์ตัวละคร ดูแล้วเก็ทปูมเก็มปมของแต่ละคน โดยเฉพาะบทของซู (Gabriella Wilde) ที่ฉบับก่อนดูคลุมเครือ แต่มาฉบับนี้เข้าใจเจตนาของเธอเลยครับว่าเพราะอะไรเธอถึงตัดสินใจให้แฟนไปเดตกับแครี่ (Chloë Grace Moretz)

ถ้ามองในมุมหนังสยอง ฉบับนี้อาจไม่ตอบโจทย์เท่าไรนัก แต่หากมองในแง่หนังวัยรุ่น ผมว่าน่าพอใจครับ เพราะแก่นจริงๆ ของ Carrie (ตั้งแต่สมัยนิยาย) คือชีวิตวัสาวน้อยเชยๆ ที่เป็นตัวตลกของโรงเรียนและโดนแกล้งไม่เว้นวัน ซึ่งก็สะท้อนวิถีวัยรุ่นอเมริกัน สะท้อนความเหลื่อมล้ำในโรงเรียน ที่ไม่ใช่มีแค่เด็กรวย Vs. เด็กจนเท่านั้น แต่ยังมีเด็กใน Vs. นอกกระแส, เด็กเก่ง Vs. เกเร, เด็กเจอตัวตน Vs เด็กสับสนในอัตลักษณ์ ฯลฯ

หนังสยองขวัญ Carrie สาวสยอง เป็นหนังที่ถูกนำมา Remake ใหม่ แถมดูเหมือนว่าหนังเรื่องนี้จะถูกนำมาสร้างใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อบอกเล่าความสยองของเรื่องราวหนังที่ดูเหมือนจะกลายเป็นตำนานไปเสียแล้ว

ส่วนหนังสยองขวัญ Carrie สาวสยอง ที่กำลังจะนำมาพูดถึงในวันนี้จะมีความน่าสนใจเพียงใดนั้น ลองมาติดตามอ่านจากบทความชิ้นนี้กันได้เลย

ประเภท : สยองขวัญ / เหนือธรรมชาติ

ปีที่ฉาย : 2013

เวลา : 1.40 ชั่วโมง

IMDb: 5.9 /10

ดูหนัง

 

รีวิว Carrie - สาวสยอง

 

นอกจากนี้ยังสะท้อนเรื่องครอบครัว, ความเชื่อทางศาสนา ที่หากเชื่อมากเกินหรือเยอะเกินก็กลายเป็นพิษได้ แบบที่แม่ของแครี่ (Julianne Moore) เป็นจนส่งผลร้ายมาถึงแครี่ด้วย

แต่ไม่ว่าจะฉบับนิยายหรือหนังฉบับไหนก็ล้วนสอนวัยรุ่นครับ ว่าสร้างเพื่อนสร้างความเข้าใจกัน ดีกว่าจับกลุ่มกันแบ่งแยกหาเรื่องกัน มันอาจสนุกครับการแกล้งกันหรือการหาเรื่องกดผู้อื่นเพื่อทำให้ตัวเองดูดีกว่า แต่การได้เพื่อนเพิ่มหรือได้คนเข้าใจเราเพิ่มน่ะ มันดีกว่ากันเยอะ

ขอทิ้งท้ายแบบที่ผมเคยทิ้งท้ายไว้เมื่อตอนรีวิวฉบับที่แล้ว ถ้าแครี่ได้รับการชี้นำดีๆ เธออาจเป็นซูเปอร์ฮีโร่อีกคนหนึ่งก็ได้ เหมือนเราทุกคนนั่นแหละครับ 

ความรู้สึกหลังดู

ก่อนอื่นคงต้องบอกว่าตัวละครเอกน่ารักมาก และนักแสดงก็ได้ถ่ายทอดตัวตนของหญิงสาวไร้เดียงสาที่ไร้ความเชื่อมั่นในตัวเองอย่างสิ้นเชิงออกมาในได้อย่างยอดเยี่ยม เมื่อเธอถูกรังแกทำให้สามารถสร้างอารมณ์ร่วมให้กับคนดูได้อย่างยอดเยี่ยม

เนื้อหาถือว่าดำเนินเรื่องช้า ๆ แต่ก็ไม่ได้น่าเบื่อ ผู้กำกับสร้างความรู้สึกอยากให้ติดตามเรื่องราวปมของตัวละครและพัฒนาตัวเองไปทีละขั้นอย่างมมั่นคง จนถึงจุดที่ดีที่สุดของเรื่องก็สามารถสร้างความน่าตื่นเต้นมากขึ้น น่ากลัวและสีหน้าของตัวละครเอกที่น่าสยอง แต่กลับสมจริงทั้งสีหน้าแววตาที่แสดงได้เห็นว่าเธอไม่อยากที่จะทำร้ายใคร ถึงอย่างนั้นก็ไม่สามารถหยุดยั้งตัวเองได้ และเรื่องราวยังเต็มไปด้วยความคาดหวัง ความหวาดกลัว ทั้งสองสิ่งนี้สามารถที่ผลักดันผู้คนให้ไปสู่ปลายทางแห่งขอบเหวได้อย่างง่ายดาย

สำหรับส่วนด้อย มีการเปิดเผยปูมหลังของตัวละครเอกเพียงเล็กน้อย แต่นั้นก็ไม่ได้เพียงพอที่จะอธิบายว่าอะไรที่ทำให้เธอกลายมาเป็นบางสิ่งที่เหนือจินตนาการ และถึงขนาดทำให้แม่ของเธอจมอยู่กับความคลั่งไคล้ทางศาสนาจนกระทั่งกลายเป็นความบ้าคลั่งไปในที่สุด

บางส่วนของเนื้อหาเองก็ไม่ค่อยสมเหตุผล แน่นอนว่าการกระทำของตัวละครบางคนที่อยากทำให้เรื่องราวดีขึ้นแต่อาจใช้วิธีการที่ผิดไปสักหน่อย หากพลาดไปอาจสร้างแผลใจบาดลึกให้กับตัวละครเอกมากขึ้นก็ดูไม่ค่อยสมจริงนัก และ CGI ของเรื่องดูค่อนข้างหลอกตาพอสมควร แต่ก็ถือว่ายังอยู่ในระดับที่รับได้ 

เว็บหนัง

 

แคร์รีย์ ไวต์ เด็กสาวขี้อายที่ถูกเลี้ยงดูมาแบบไข่ในหินโดยแม่ผู้เคร่งศาสนา กลับต้องเจอกับบรรดาเพื่อนร่วมชั้นที่กลั่นแกล้งจนเธอต้องอับอายและกลายเป็นตัวตลกประจำโรงเรียน แต่ในขณะเดียวกันนั้น เธอก็บังเอิญได้พลังพิเศษเหนือมนุษย์มา จนกลายเป็นชนวนไปสู่เหตุการณ์อันน่าสยดสยองในงานเต้นรำปีสุดท้ายของเธอ

เป็นหนังดราม่าสยองขวัญที่เล่นกับอารมณ์คนดูได้ค่อนข้างดี ดูแล้วอินและเข้าใจถึงความรู้สึกของแต่ละตัวละครได้ดี เนื้อเรื่องก็ตามที่โปรโมท ไม่ได้มีอะไรออกนอกลู่นอกทาง เข้าใจง่ายและเดาตอนจบได้ไม่ยาก แต่จุดเด่นของเรื่องนี้คืออารมณ์ของหนังตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งจะค่อยๆบิ้วอารมณ์ให้ขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงจุดพีคที่ได้อารมณ์สุดๆ โหดสะใจมากครับ

สำหรับผู้เขียนหนังสยองขวัญ Carrie สาวสยอง ถือว่าสนุกมากกว่าที่คิด โดยเฉพาะในส่วนของการพัฒนาตัวละครที่ทำออกมาได้อย่างไม่ขัดตา ก่อนที่จะนำพาไปสู่ความสยดสยองอย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้หนังสยองขวัญ Carrie สาวสยอง ถือว่าเป็นหนังในหนังสยองที่ดี เหมาะกับคนที่ค่อนข้างที่จะมีความอดทนสูง เพราะกว่าหนังเรื่องนี้จะแสดงความน่าสนใจอย่างครบถ้วนก็กินเวลาไปกว่า 70% ของเรื่องราวทั้งหมด

 

ชื่อภาพยนตร์: Carrie / สาวสยอง
ผู้กำกับภาพยนตร์: Kimberly Peirce
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Lawrence D. Cohen (screenplay), Roberto Aguirre-Sacasa (screenplay), Stephen King (novel)
นักแสดงนำ: Chloë Grace Moretz, Julianne Moore, Gabriella Wilde, Portia Doubleday
แนว/ประเภท: Drama, Horror
ความยาว: 100 นาที
เรท: ไทย/ , USA/R
วันเข้าฉายในประเทศไทย: 28 พฤศจิกายน 2556
ผู้สร้าง/สตูดิโอ/ผู้จัดจำหน่าย: Metro-Goldwyn-Mayer (MGM), Screen Gems, Misher Films

รีวิวหนังใหม่ชัด

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *