รีวิวหนัง prey
เรื่องย่อ: ปี 1719 คือการพบกันครั้งแรกของเผ่าชนพื้นเมืองในทวีปอเมริกากับสิ่งมีชีวิตต่างดาวเผ่าพันธุ์นักล่า และมนุษย์เราต้องรับมือกับสุดยอดเทคโนโลยีล่าสังหารระดับจักรวาลด้วยอาวุธเพียงมีด ธนู หอก และขวาน เท่านั้น
ภาพยนตร์จากแฟรนไชส์ ‘Predator’ เรื่องล่าสุดที่มาลงสตรีมมิงทาง Disney+ Hotstar โดยอาจกล่าวได้ว่าเป็นมรดกตกทอดจากการควบรวมค่าย 20th Century Fox เข้ามาร่วมชายคา และคงต้องบอกว่าเป็นการเอาเผ่าพันธุ์ยวตจา (Yautja) กลับมาสู่จอได้อย่างเหมาะสมเสียที หลังจากหลงทางและพยายามรีบูตแฟรนไชส์โดยไม่ใช้เลขภาคต่อ
ใน ‘Predators’ (2010) และ ‘The Predator’ (2018) ที่กลายเป็นหนังที่มีแนวทางเฉพาะ คือถ้าใครไม่เข้าใจสไตล์จนชอบก็คงเกลียดกันไปเลย หนังแนะนำใหม่
มารอบนี้ได้ผู้กำกับ แดน ทราชเตนเบิร์ก (Dan Trachtenberg) ที่มีผลงานประทับใจคนดูอย่าง ’10 Cloverfield Lane’ (2016) มา ก่อนจะห่างหายไปหลายปี มีโผล่ไปชิมลางกับซีรีส์ ‘Black Mirror’ ตอน Playtest (2016) กับ ‘The Boys’ ตอน The Name of the Game (2019) อยู่บ้าง มารอบนี้ก็ถือว่าใช้ฝีมือของเขาในแนวทางธริลเลอร์ได้เข้ากับตัวหนัง ซึ่งเรื่องราวก็เป็นไอเดียของทราชเตนเบิร์กกับ แพตทริก ไอซอน (Patrick Aison) ที่มีผลงานเขียนบทในซีรีส์เดินเรื่องชวนสงสัยปนลุ้นระทึกใน ‘Wayward Pines’ (2015) และแนวธริลเลอร์เข้มข้นอย่าง ‘Jack Ryan’ (2018) ดูหนัง
รีวิวหนัง prey
รีวิวหนัง prey ถ้ามองอย่างผิวเผินเรื่องราวใน ‘Prey’ นั้นเรียบง่ายแต่แจ่มชัดอย่างยิ่ง มันคือการหวนคืนสู่นิยามตั้งต้นของคำว่า ผู้ล่าและเหยื่อในห่วงโซ่อาหารที่มีลำดับชั้น แต่มีนัยถึงเรื่องศักดิ์ศรีการยอมรับของนักรบอยู่ในตัว ซึ่งเป็นสิ่งที่กินใจผู้ชมที่ชื่นชอบหนังแอ็กชันหรือแนวนักสู้ได้ง่าย ในหนังแนวนี้ยิ่งมีความห่างชั้นระหว่างผู้ล่าและเหยื่อมากเท่าใด คนดูก็ยิ่งจะลุ้นเอาใจช่วย และจะยิ่งปลาบปลื้มได้มากขึ้นเมื่อฝั่งมวยรองพลิกเอาชนะหรือเอาชีวิตรอดมาได้ เว็บหนัง
มันจึงนำมาสู่วิธีคิดที่ว่าให้นักล่าต่างดาวที่โหดเหี้ยม พละกำลังมหาศาล มีสติปัญญาสูงส่ง แถมมีอาวุธล้ำสมัยทั้งระยะประชิดและระยะไกล รวมถึงหายตัวได้อีก ต้องมาสู้กับเหยื่อที่อารยธรรมต้อยต่ำกว่า มีเครื่องไม้เครื่องมือเอาชีวิตรอดในธรรมชาติไปวัน ๆ ยังดูยากลำบากอย่างชนเผ่าพื้นเมืองโคแมนชี (Comanche) ของอเมริกาที่มีวัฒนธรรมของการล่าอยู่ด้วยนี่เอง prey disney+
ตัวหนังให้เรามองผ่านสายตาของ นารู น้องสาวของว่าที่นักรบหนุ่มของเผ่า แม้เธอจะมีความเฉลียวฉลาดช่างสังเกตแต่ก็ยังถูกดูแคลนในความเป็นเพศหญิงที่พละกำลังในการล่าต่ำกว่าผู้ชาย เธอจึงฝึกฝนและแสวงหาการยอมรับผ่านพิธีล่าสัตว์ดุร้ายอย่างสิงโต และแน่นอนว่าบัดนี้ในป่าไม่ได้มีเพียงแค่สัตว์ร้ายอย่าง งูพิษ หมาป่า สิงโต หรือหมีเท่านั้น เพราะมีนักฆ่าต่างดาวออกมาเดินหาคู่ต่อสู้ที่สมศักดิ์ศรีอยู่ด้วย และในเวลาใกล้เคียงกันพวกคนยุโรปที่อพยพก็เริ่มรุกรานใช้ปืนฆ่าชนเผ่าพื้นเมืองด้วยเช่นกัน ดูหนังออนไลน์
การดำเนินเรื่อง
และต้องชื่นชมด้วยว่า นักแสดงสาวอย่าง แอมเบอร์ มิดธันเดอร์ (Amber Midthunder) ที่มารับบท นารู นั้นมีเสน่ห์ทั้งด้านรูปลักษณ์และการแสดงที่สามารถตรึงสายตาไปกับเธอตลอดเรื่องได้จริง ๆ ไม่ว่าจะตอนสวย ๆ หรือผ่านนาทีชีวิตจนโทรมไปทั้งตัว แม้ตอนดูตัวอย่างยังหวั่น ๆ ว่าเธอไม่ค่อยดึงดูดสายตานักแต่ของจริงเธอฉายออร่าได้แรงไม่เบาทีเดียว ดูหนังฟรี
มาถึงตรงนี้มันจึงได้เห็นว่าหนังมีการนำเสนอนัยของประวัติศาสตร์การล่าอาณานิคมและฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชนพื้นเมืองอเมริกา รวมถึงการพูดเรื่องความเท่าเทียมทางเพศแบบที่เราไม่รู้สึกยัดเยียดอยู่ด้วย ทำให้หนังมีมิติเชิงลึกให้พูดคุยกันต่อได้ แต่มันก็ไม่ทิ้งหน้าที่ในการสร้างความบันเทิง ต้องบอกว่าผู้สร้างไล่ระดับความตื่นเต้นไปได้อย่างเหมาะสม จากการประจันหน้ากับสัตว์ร้าย จนถึงคู่มือที่เกินเอื้อมแค่เอาชีวิตรอดมาได้ก็บุญ ก่อนที่ทุกอย่างจะบีบบังคับให้ฝั่งตัวเอกจนตรอกต้องสู้กลับเท่านั้น กลายเป็นศึกสุดท้ายที่บีบหัวใจอย่างยิ่ง prey ซับไทย
พล็อตเรื่อง
และในความเป็นหนึ่งในหนังที่พยายามเชื่อมโยงกับแฟรนไชส์ ผู้สร้างก็หาวิธีการสร้างสะพานกลับไปโยงใบผ่านหนังเรื่อง ‘Predator 2’ (1990) แบบน่าประหลาดใจพอสมควร ด้วยการใช้สิ่งของชิ้นหนึ่งที่มีความสำคัญในหนังเรื่องนั้น ให้มาปรากฏก่อนหน้าหลายร้อยปีในหนังเรื่องนี้ prey เต็มเรื่อง
ยิ่งสำหรับคอเดนตายของฉบับหนังสือการ์ตูนด้วยแล้ว จะพบว่าหนังได้ใช้รายละเอียดจากเรื่องสั้นชื่อ ‘Predator: 1718’ ที่ตีพิมพ์ในปี 1996 เล่าถึงเผ่ายวตจาที่ชื่อ เกรย์แบ็ก (ตัวเดียวกับที่มาปรากฏในท้ายหนังภาค 2 ในปี 1990) ซึ่งได้ลงมาพบมนุษย์เป็นครั้งแรกในจังหวะสถานการณ์ที่ ราฟาเอล อะโดลินี กัปตันเรือโจรสลัดลำหนึ่งกำลังถูกทรยศจากลูกเรือ และนำมาซึ่งการต่อสู้ร่วมกันและยอมรับกันในฐานะนักรบ ถึงขั้นได้แลกอาวุธของกันและกันไว้ด้วย
รีวิวหนัง prey บทสรุป
รีวิวหนัง prey จะว่าไป เรานี่ก็ได้ทำความรู้จักกับเหล่าเอเลี่ยนประเภทนี้มานานมากเหมือนกันนะเนี่ย หนังภาคแรกในปี 1987 ก็ได้มาดูเอาทีหลัง ในสมัยนั้นยังแทบไม่รู้จักด้วยซ้ำว่ามันเป็นตัวอะไร แต่มันก็อยู่กับเราเรื่อยมา มียุคเฟื่องฟูก็มียุคตกต่ำ จนวันหนึ่ง มันก็หวนกลับมาใหม่หลังจะคอลแลบกับใครต่อใครเขาจนเปื่อยยุ่ย ครั้งนี้ ขอเริ่มต้นด้วยอะไรที่สะอาดเอี่ยมอีกครั้งในหนังเรื่อง ‘Prey’
หนังเรื่องนี้ กำกับโดย Dan Trachtenberg คนที่กำกับ ’10 Cloverfield Lane’ บางตอนในซีรีส์ ‘The Boys’ และ ‘Black Mirror’ ที่เป็นการย้อนกลับไปเล่าอะไรที่เป็นพรีเดเตอร์แบบเพียวๆ อีกครั้ง แถมยังย้อนกลับไปในยุคที่ชนเผ่าอินเดียนยังใช้ชีวิตกันอยู่เมื่อราว 300 ปีก่อน เป็นอีกครั้งที่บอกว่า เอเลียนเจอโลกมนุษย์มานานแล้ว
และเอเลี่ยนครั้งนี้คือย้วดจา หรือพรีเดเตอร์ที่หลายคนคุ้นเคยนั่นแหละครับ
บนแผ่นอเมริกาเมื่อราว 300 ปีก่อน แผ่นดินที่ได้ชื่อว่าเป็น Comanche Nation ในเวลานั้น นารู (Amber Midthunder จากหนัง ‘The Ice Road’, ‘The Marksman’ และ ‘Hell or High Water’) หญิงสาวในชนเผ่าอินเดียนผู้มีความต้องการอยากเป็นนักล่า แต่ดูเหมือนว่าทั้งคนในครอบครัวและเพื่อนร่วมชนเผ่าจะไม่มีใครเห็นด้วย เธอเลยต้องหาทางพิสูจน์ ก็พอดีที่วันหนึ่ง เธอมองเห็นปรากฏการณ์บางอย่างบนท้องฟ้า เธอมองว่ามันเป็นสัญญาณ
นารู มีเจ้าหมาน้อยที่เธอฝึกจนแสนรู้อย่างซารีเป็นเพื่อนคู่กาย และเธอก็เป็นผู้เดียวในเผ่าที่สังเกตเห็นอะไรบางอย่างที่ผิดแปลก มันไม่ใช่สิงโต ไม่ใช่หมี มันตัวใหญ่กว่านั้น และเธอพยายามจะฆ่ามันให้สำเร็จ
สิ่งนั้น นอกจากมีขนาดที่ใหญ่และแข็งแรงแล้ว มันยังสามารถพรางตัวได้อีกต่างหาก และการมาของ ‘มัน’ จะช่วยพิสูจน์ความเป็นนักล่าของเธอให้ประจักษ์ชัด prey บทสรุป
โดยรวมหนัง
ไอเดียการล่าของพรีเดเตอร์ในภาคนี้อาจจะไม่ได้อลังการมากนัก ส่วนใหญ่เป็นเหมือนการเรียนรู้ห่วงโซ่อาหารของโลกเสียมากกว่า ส่วนฉากการต่อสู้ระหว่างมันกับมนุษย์เผ่าอินเดียนก็อาจจะไม่ได้ดูแปลกใหม่ แต่ดูสะอาดหมดจดตามแบบฉบับเผ่าอินเดียน เป็นหนังที่บทพูดน้อยต่อยหนักแทน หลายช็อตก็จัดว่าโหดเอาการอยู่ ติดที่มันเป็นหนังที่ต้องรับชมทางทีวีเนี่ยแหละ ถ้าเป็นบนจอใหญ่ ระบบเสียงกระหึ่ม ก็คงจะตื่นตาไม่หยอก แต่เหนืออื่นใด ต้องบอกว่าเจ้าหมาซารีเนี่ย ขโมยซีนได้น่าเอ็นดูได้ไม่น้อยเลย
ถือเป็นการเริ่มต้นจักรวาลพรีเดเตอร์ครั้งใหม่ได้น่าสนใจทีเดียว เหมือนกับเป็นการล้างทุกสิ่งที่ละเลงกันมาตลอดสิบปีแล้วเริ่มกันใหม่ด้วยภาคแรก ช่วงหนังจบ ก็จะเปิดเผยบางสิ่งไว้เป็นนัยๆ ว่า ภาคต่อไปจะตามมาแน่ คอยฟังข่าวเอาก็แล้วกัน! prey สนุกไหม
โดยรวมต้องบอกว่า ‘Prey’ เป็นหนังที่ตีโจทย์การสร้างได้ขาด สามารถป้อนปากผู้ชมที่ต้องการเรื่องราวดิบ ๆ เข้าใจง่าย ๆ แต่ขอให้สนุกก็พอซึ่งเป็นผู้ชมกลุ่มใหญ่ ใส่นัยความขัดแย้งเชิงประวัติศาสตร์และข้อถกเถียงถึงกระแสของโลกปัจจุบันลงไปแบบเห็นชัดแต่ไม่ขัดตาเพื่อผู้ชมกลุ่มที่อยากได้อะไรที่เป็นสาระบ้างได้เอาไปถกกันต่อ
รวมถึงยังไม่ทิ้งแฟนของ ‘Predator’ ทั้งฉบับหนังและฉบับหนังสือให้เจออีสเตอร์เอ้กอย่างน่าชื่นชม ได้พ่วงจูงใจให้คนที่สงสัยว่ามันคืออะไรไปค้นหาต่อด้วย และที่ว่ามาทั้งหมดหนังพาคนดูไปได้หลายระดับการดูโดยที่ไม่มีกลุ่มไหนที่รู้สึกน่ารำคาญเลยด้วย นี่คือสุดยอดความสำเร็จจริง ๆ ของหนังเรื่องนี้ รีวิวหนังใหม่ชัด